นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, First Senior Vice President, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า กลยุทธ์การลงทุนของทิสโก้ เวลธ์ (TISCO Wealth) แนะนำให้ใช้โอกาสช่วงที่ตลาดหุ้นปรับฐานเข้าลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งได้รับแรงสนับสนับสนุนจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดสภาล่างของสหรัฐฯ ได้อนุมัติการขยายเพดานหนี้จนถึงเดือน มี.ค. 2558 โดยไม่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม และขั้นตอนต่อไปคือการให้รัฐสภาสหรัฐฯ ลงคะแนนเสียงซึ่งคาดว่าจะผ่านร่างดังกล่าวเช่นกัน และการแถลงการณ์ของประธาน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) คนใหม่ นางเจเน็ต เยลเลน ที่ออกมาตามความคาดหมายของตลาด ด้วยการคงนโยบายการลดการอัดฉีดสภาพคล่อง (QE) ต่อไป ตามตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังคงออกมาในระดับที่น่าพอใจ
ทั้งนี้ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่น ตั้งแต่ต้นปีมีการปรับฐานอย่างรุนแรงราว 8% เนื่องจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น จากความกังวลต่อปัญหาเงินทุนไหลออกใน ตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ตามทิสโก้ เวลธ์ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในญี่ปุ่น เนื่องจากแนวโน้มการขยายตัวของกำไรที่โดดเด่น โดยคาดการณ์ผลกำไรบริษัทจดทะเบียนในดัชนี Nikkei 225 จะเติบโตขึ้นราว 15-20% ในปี 2557 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าตลาดหุ้นในประเทศ พัฒนาแล้วอื่นๆ เช่น สหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งแนวโน้มการเติบโตของกำไรอยู่ที่ประมาณ 8-10% เท่านั้น ในขณะที่ P/B ยังอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว
ส่วนความกังวลเรื่องค่าเงินเยนที่ยังแข็งค่านั้น เชื่อว่าประเด็นดังกล่าวน่าจะมีทิศทางผ่อนคลายลงตามลำดับ โดยคาดว่าค่าเงินเยนจะกลับมาอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงต่อจากนี้ เนื่องจาก 1) การประกาศชะลอ QE ของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ 2) ยอดการขาดดุลการค้าของสหรัฐที่ลดลง เนื่องจากการผลิต Shale Gas และ Shale Oil ทำให้สหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติจากนอกประเทศลดลง 3) คาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะมีการใช้นโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงไตรมาส 2 เพื่อบรรเทาผลกระทบของการขึ้นภาษีการบริโภค (Consumption Tax) ในญี่ปุ่น
นายสาห์รัช กล่าวว่า ดังนั้นเพื่อตอบโจทย์การลงทุนในจังหวะเวลาที่เหมาะสม บลจ.ทิสโก้ จึงเตรียมเปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #3” (TISCO Japan Equity Trigger 8% Fund #3) ซึ่งเป็นกองทาร์เก็ตฟันด์ที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น ผ่านกองทุน Nikkei 225 Exchange Traded Fund ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ทั้งนี้ “กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #3” มีอายุโครงการประมาณ 8 เดือน หรือสามารถเลิกโครงการก่อนครบกำหนดอายุโครงการ หากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% หรือมีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) มากกว่าหรือเท่ากับ 10.80 บาท มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เปิดเสนอขาย (ไอพีโอ) ตั้งแต่ 18 - 24 ก.พ. 2557 นี้ มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท
“โดยกองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% กองที่ 3 เป็นกองทุนที่เหมาะสมกับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังหลักทรัพย์ต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน รวมถึงเพื่อเป็นการเปิดโอกาสในการลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนที่ดี จากแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ปรับตัวดีขึ้น และจากการลด QE ของ Fed ทำให้เชื่อว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมี Upside มากกว่า 20% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่น่าสนใจลงทุน ดังนั้นในจังหวะที่ดัชนีอยู่ในช่วงปรับฐานทำให้เป็นโอกาสในการเข้าลงทุน เนื่องจากราคาหุ้นยังอยู่ในระดับที่ถูก เพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายที่วางไว้” นายสาห์รัช กล่าว
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อขอหนังสือชี้ชวนฯ และจองซื้อได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือสอบถามได้ที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4