ดร.วิเทศ เตชางาม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และบริการจัดการทางการเงิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารมีความมุ่งมั่นในการสร้างบริการที่มีคุณค่า เพื่อสนับสนุนการเติบโตและความมั่งคั่งแก่ลูกค้าตามวิสัยทัศน์ KTB Growing Together โดยในส่วนของบัตร Fleet card หรือบัตรเติมน้ำมัน ซึ่งเป็นบัตรเครดิตสำหรับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และนิติบุคคล เพื่อใช้ชำระค่าน้ำมัน และค่าบริการต่าง ๆ ณ สถานีบริการน้ำมัน/ ก๊าซ นั้น ล่าสุด ธนาคารได้จับมือกับ บมจ.เอสโซ่(ประเทศไทย) ออกบัตร Esso Fleet Card หลังจากได้ร่วมกับบมจ.ปตท.และ บมจ. บางจากปิโตรเลียมออกบัตรดังกล่าว ทำให้บัตร Fleet Card ของธนาคาร ครอบคลุมทุกสถานีบริการน้ำมัน/ ก๊าซ ทั่วประเทศกว่า 2,800 แห่ง
“สำหรับบัตร Esso Fleet Card สามารถใช้ชำระค่าน้ำมันและค่าบริการต่าง ๆ ณ สถานีบริการ Esso กว่า 560 แห่งทั่วประเทศ โดยธนาคารให้ระยะเวลาในการชำระเงินคืนได้สูงสุดถึง 55 วัน มีให้เลือกหลายรูปแบบตามการใช้งาน โดยลูกค้าสามารถกำหนดเงื่อนไขการใช้บัตรได้โดยสามารถกำหนดวงเงินการใช้บัตร , ประเภทน้ำมัน รวมทั้งสามารถชำระเงินคืนผ่านเคาน์เตอร์สาขาของธนาคารกรุงไทยกว่า 1,100 สาขาทั่วประเทศ ชำระโดยการหักบัญชีอัตโนมัติ ชำระผ่านระบบ KTB netbank นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบรายงานการใช้บัตรได้ทุกวันที่ www.ktb.co.th เลือก KTB Corporate Online”
ดร.วิเทศ เตชางาม กล่าวในตอนท้ายว่า บัตร Fleet Card นี้ เป็นอีกหนึ่งบริการทางการเงินที่ช่วยให้การบริหารจัดการงบประมาณของหน่วยงาน องค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วยลดการสำรองเงินสดในการชำระค่าน้ำมัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับหน่วยงาน องค์กรขนาดใหญ่ ที่มีการใช้ปริมาณน้ำมันจำนวนมาก รวมทั้งช่วยลดภาระการจัดการด้านเอกสารเบิกจ่าย ที่ผ่านมามีหน่วยงาน องค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชนจำนวนมากหันมาใช้บริการ Fleet Card เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายหลังออกบัตร Esso Fleet Card ในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะทำให้ธนาคารสามารถเป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาดบัตร Fleet Card ในประเทศ