เอดับบลิวเอ็น (AWN) บริษัทในเครือ เอไอเอส ได้รับเรตติ้งองค์กร AA+ จาก ฟิทช์ฯ

อังคาร ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๔ ๑๑:๐๖
เอดับบลิวเอ็น (AWN) บริษัทในเครือของ เอไอเอส ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม 3G 2100 จาก กสทช. ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรจาก ฟิทช์ เรตติ้งส์ ในอันดับ AA+(tha) ซึ่งนับเป็นบริษัทที่มีความมั่นคง และน่าเชื่อถืออยู่ในระดับสูงบริษัทหนึ่งของไทย

นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และรักษาการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ เอดับบลิวเอ็น (AWN) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้รับแจ้งจาก ฟิทช์ เรตติ้งส์ บริษัทจัดอันดับเครดิตชั้นนำของโลก ว่าได้จัดเรตติ้งให้ เอดับบลิวเอ็น (AWN) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ เอไอเอส อยู่ในระดับ AA+(tha) อันเป็นผลมาจากความเชื่อมโยงกันอย่างแข็งแกร่งระหว่าง เอดับบลิวเอ็น (AWN) และ เอไอเอส ในด้านการบริหารจัดการและการดำเนินงาน อีกทั้งเมื่อ เอดับบลิวเอ็น (AWN) ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม 3G 2100 จาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วนั้น เอดับบลิวเอ็น(AWN) จึงเป็นบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มเอไอเอสต่อไป นอกจากนั้นเอไอเอส ยังให้การสนับสนุน เอดับบลิวเอ็น (AWN) ในด้านการดำเนินงานด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการในการขยายเครือข่ายการให้บริการ การจัดหาเช่าใช้สถานีฐาน ระบบสื่อสัญญาณ การเชื่อมโยงโครงข่าย และงานด้านบริการต่างๆ โดยคณะผู้บริหารมืออาชีพซึ่งเป็นคณะเดียวกันกับเอไอเอส

นายวิเชียร เมฆตระการ ได้ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของ บริษัท เอดับบลิวเอ็น (AWN) ในโอกาสที่ดำเนินงานครบรอบ 1 ปี ว่า “ตามที่ ฟิทช์ เรตติ้งส์ ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของ เอดับบลิวเอ็น (AWN) บริษัทในเครือของเอไอเอส ให้อยู่ในระดับ AA+ นั้น นับเป็นการสะท้อนถึงความมั่นคง และความน่าเชื่อถือของ เอดับบลิวเอ็น (AWN) ที่อยู่ในระดับสูงบริษัทหนึ่งของไทย เพราะนับตั้งแต่ที่ เอดับบลิวเอ็น (AWN) ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม 3G 2100 เมื่อเดือนธันวาคม 2555 จาก กสทช. บริษัทฯ ก็ได้มุ่งมั่นสร้างความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้า ด้วยการเร่งพัฒนาเครือข่ายอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งครอบคลุม 77 จังหวัด เมื่อสิ้นปี 2556 ที่ผ่านมา และยังคงเดินหน้าพัฒนาคุณภาพในเชิงลึกอย่างไม่หยุดยั้ง จนสามารถครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 85% ด้วยจำนวนสถานีฐานมากกว่า 14,000 แห่ง พร้อมด้วยฐานลูกค้า 3G 2100 ที่ไว้วางใจใช้บริการกว่า 16 ล้านราย ในเวลาเพียง 8 เดือน ซึ่งนับว่าเป็นการขยายเครือข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งเร็วที่สุดในประเทศไทย และบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานโมบายอินเตอร์เน็ตของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการของเราได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ด้วยเครือข่ายและสัญญาณที่มีความเร็ว เปี่ยมประสิทธิภาพ และคุณภาพครอบคลุมทั่วประเทศ”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ