บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล มองแนวโน้มไทยเข้าสู่ดอกเบี้ยขาลง แนะลงทุนตราสารหนี้ 6 เดือน ล็อกผลตอบแทนประมาณ 3% ต่อปี

อังคาร ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๔ ๑๖:๒๙
บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล มองแนวโน้มไทยเข้าสู่ดอกเบี้ยขาลงแนะลงทุนตราสารหนี้ 6 เดือน ล็อกผลตอบแทนประมาณ 3% ต่อปี

เปิด“กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ ตราสารหนี้ 6M18 (CIMB-PRINCIPAL EFI 6M18)”เสนอขาย 17-19 ก.พ.นี้

นายอุดมการ อุดมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะเปิดเสนอขาย “กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ ตราสารหนี้ 6M18 (CIMB-Principal EFI 6M18)” อายุโครงการประมาณ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารทางการเงินภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ทั้งในและต่างประเทศที่มีความน่าเชื่อทีอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ส่วนที่ลงทุนในต่างประเทศจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully Hedging) ซึ่งกองทุน CIMB-Principal EFI 6M18 คาดการณ์ผลตอบแทนที่ประมาณ 3% ต่อปี* โดยเสนอขายครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2557

คุณอุดมการ กล่าวว่า จากสถานการณ์การเมืองที่ยืดเยื้อกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสที่อาจจะพิจารณาตัดสินใจในเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ปัจจุบันอยู่ในระดับ 2.25% โดยคาดว่าอาจมีการปรับลงหรือคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนและกำลังซื้อของผู้บริโภคภายในประเทศ ดังนั้น คาดว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ภาวะช่วงดอกเบี้ยขาลงหรืออยู่ในระดับต่ำ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้

“บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล มองว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ภาวะอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ ดังนั้นทางเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและระยะเวลาลงทุนสั้น แต่มีโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนในช่วงเวลานี้ เราขอแนะนำกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ ตราสารหนี้ 6M18 ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ อายุการลงทุนประมาณ 6 เดือน ประมาณการณ์ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายอยู่ที่ ประมาณ 3% ต่อปี พร้อมมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย เราคาดการณ์ว่ากองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ ตราสารหนี้ 6M18 จะสามารถให้โอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น โดยมีผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ”

สำหรับผู้ที่สนใจ “กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ ตราสารหนี้ 6M18” สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท และขอหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา ทั่วประเทศ และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล 0 2686 9595 www.cimb-principal.com

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

ตารางประมาณการการลงทุนสำหรับกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ ตราสารหนี้ 6M18

ชื่อตราสาร/ผู้ออก* ประเภท Issuer Rating ผลตอบแทนของ สัดส่วนการลงทุนโดยประมาณ ผลตอบแทนจาก

ตราสาร ตราสาร(%p.a.)** การลงทุน

(THB) (%p.a.)

Danamon Bank เงินฝาก Baa3 (Moody’s) 3.50% 24.50% 0.87%

Bank of China (BOC) เงินฝาก A1 (Moody’s) 3.55% 20.00% 0.71%

A (FITCH)

บมจ. อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส (AYCAL) หุ้นกู้ A+ (TRIS) 3.00% 24.00% 0.72%

บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) BBB+ (TRIS)

บมจ. บัตรกรุงไทย (KTC) BBB+ (TRIS)

บมจ. อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส (AYCAL) หุ้นกู้ A+ (TRIS) 2.90% 20.00% 0.58%

บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) BBB+ (TRIS)

บมจ. บัตรกรุงไทย (KTC) BBB+ (TRIS)

บมจ. อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส (AYCAL) หุ้นกู้ A+ (TRIS) 2.90% 10.50% 0.30%

บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) BBB+ (TRIS)

บมจ. บัตรกรุงไทย (KTC) BBB+ (TRIS)

กระทรวงการคลัง พันธบัตรรัฐบาล - 2.20% 1.00% 0.02%

รวมประมาณการ 3.20%

หักค่าใช้จ่าย***(โดยประมาณ) (ต่อปี) 0.20%

อัตราผลตอบแทนโดยประมาณ(สามารถเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกได้) 3.00%

* ตราสารที่คาดว่าจะลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลง หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลง หรือตามที่ผู้จัดการกองทุนเห็นสมควร

** สำหรับอัตราผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าว ได้ทำการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นข้อมูล ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 จาก Bloomberg และ/หรือราคา Quotation ผู้ขายตราสารดังกล่าว

*** ค่าใช้จ่ายที่กองทุนเรียกเก็บอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่คิดไม่เกินร้อยละ 2.50 ของจำนวนเงินทุนจดทะเบียนของกองทุนรวม ณ วันที่จดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะ ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้ และ/หรือ บริษัทจัดการอาจไม่ รับซื้อคืนหน่วยลงทุนตามอัตราที่โฆษณาไว้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๐๑ วช. ขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพื้นที่ 'ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5' มุ่งลดฝุ่นพิษภาคเหนืออย่างยั่งยืน
๑๘:๐๘ TKS จัดประชุมผู้ถือหุ้นปี 2568 ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.33 บ./หุ้น
๑๘:๔๙ STECH จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 แจกปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.034 บาท
๑๘:๒๒ SGP จัดประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติเคาะปันผลครึ่งปีหลัง 0.20 บาท/หุ้น
๑๘:๐๖ ผู้ถือหุ้น FLOYD พร้อมใจเห็นชอบ ไฟเขียวทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.08 บาท/หุ้น
๑๘:๑๑ TEKA จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 พร้อมไฟเขียวจ่ายปันผล 0.155 บาท
๑๘:๒๓ BRR จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นเคาะจ่ายปันผล 0.50 บาท/หุ้น
๑๘:๓๘ กลุ่มเหล็กรุ่นใหม่ เข้าพบ 'เอกนัฏ' ประสานเสียงให้กำลังใจ ดันยกเลิกเหล็ก IF กันเหล็กนำเข้าไร้มาตรฐาน
๑๘:๑๘ ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ เอเชีย เอรา วัน และกรมป่าไม้ จัดกิจกรรมรักษ์โลก สร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
๑๗:๒๘ LPH ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห. ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.10 บ./หุ้น