ผลการประชุมคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

1. เรื่อง ผลการดำเนินงานด้านการขนส่ง ประจำเดือนมกราคม 2557

คณะกรรมการบริษัทฯ รับทราบผลการดำเนินงานด้านการขนส่งประจำเดือนมกราคม 2557 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) รวมทั้งระบบเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 71.5 ซึ่งต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนที่เฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 78.8 มีสาเหตุสำคัญมาจากประเทศจีนออกกฎหมายการท่องเที่ยวฉบับใหม่ ซึ่งมีผลกระทบต่อราคาทัวร์ต่างประเทศซึ่งส่งผลอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ทำให้หลายประเทศออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย ทำให้ในเดือนนี้มีจำนวนผู้โดยสาร 1.71 ล้านคนลดลงจาก 1.89 ล้านคนจากเดือนเดียวกันของปีก่อน หรือลดลงร้อยละ 9.5 ส่งผลให้ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (Revenue Passenger – Kilometer : RPK) ต่ำกว่าปีก่อนร้อยละ 5.5 ในขณะที่ในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีแผนขยายการผลิตโดยการเปิดเส้นทางบินใหม่เพิ่มขึ้น อาทิ หลวงพระบาง เซนได ฉงชิ่ง ฉางซา รวมถึง การเพิ่มกำลังการผลิตไปยังเมืองซัปโปโร ทำให้มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (Available Seat - Kilometer : ASK) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2

การดำเนินงานด้านการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (Revenue Freight Ton-Kilometers : RFK) ปรับตัวดีขึ้นจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าสูงกว่าปีก่อน ร้อยละ 2.5 มีปริมาณการผลิตด้านสินค้าและพัสดุภัณฑ์(Available Dead Load Ton -Kilometers : ADTK) สูงขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 2.1 ทำให้อัตราการบรรทุกสินค้า (Freight Load Factor)โดยรวมทั้งใต้ท้องเครื่องบิน (Belly) และเครื่องบินขนส่งสินค้า (Freighter) เฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 47.3 สูงกว่าปีก่อนที่เฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 47.0

2. อนุมัติการลาออกของนายอำพน กิตติอำพน จากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ และแต่งตั้ง พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง กรรมการบริษัทฯดำรง ตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2557

คณะกรรมการบริษัทฯมีมติให้ นายอำพน กิตติอำพน ลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯตามที่ได้แจ้งความประสงค์ต่อคณะกรรมการบริษัทฯ โดยที่นายอำพนฯ ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการ บริษัทฯ ต่อไป

ทั้งนี้. นายอำพนฯ ได้แจ้งสาเหตุที่ขอลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ ให้คณะกรรมการบริษัทฯ ทราบว่า ตนเองได้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ ต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบ 5 ปี รวม 2 วาระ และตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และหลักธรรมาภิบาลนั้น การดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริษัทฯ เป็นเวลานานเกินไปเป็นการไม่สมควร ซึ่งเป็นหลักทั่วไป ไม่ว่าเป็นภาคเอกชนหรือราชการ จะกำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งไว้อย่างชัดเจน กรณีปลัดกระทรวงจะเปลี่ยนทุก 4 ปีเช่นกัน หรือประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 วาระๆ ละ 3 ปีเช่นกัน ดังนั้น จึงขอลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ เพื่อที่คณะกรรมการบริษัทฯ จะได้พิจารณา กรรมการบริษัทฯ ที่มีความเหมาะสม มีประสบการณ์ และความรู้ความสามารถในการบริหารธุรกิจการบินมาทำหน้าที่ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ ต่อไป

คณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาแล้ว ไม่ขัดข้องที่นายอำพนฯ จะขอลาออก ทั้งนี้ กรรมการบริษัทฯ มีความเห็นว่า นับตั้งแต่นายอำพนฯ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ ได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่บริษัทการบินไทยเป็นอย่างมาก ได้ช่วยแก้ไขวิกฤติการณ์ของบริษัทอยู่หลายครั้ง รวมทั้งเป็นผู้รักษาระบบธรรมาภิบาล และได้แก้ไขปัญหาการดำเนินงานที่ไม่โปร่งใสมาโดยตลอด และทราบถึงการดำเนินการต่างๆ ของบริษัทฯ เป็นอย่างดี ดังนั้น ถึงแม้ว่านายอำพนฯ จะลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ แต่ในฐานะกรรมการบริษัทฯ นายอำพนฯ ยังสามารถทำประโยชน์ให้แก่บริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่อง

แต่เนื่องจากในช่วงนี้ บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการปรับปรุงโครงสร้าง และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ดังนั้น การพิจารณาแต่งตั้งประธานที่สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อบริษัทฯ คณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้พิจารณาร่วมกัน และมีมติแต่งตั้งพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองประธานกรรมการบริษัทฯ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ ต่อจากนายอำพนฯ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2557

3. การปรับปรุงโครงสร้างองค์กร

คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรตามข้อเสนอของที่ปรึกษา และความเห็นของคณะกรรมการบริษัทฯ ซึ่งฝ่ายบริหารได้ปรับปรุงและนำมาเสนอ โดยที่การปรับปรุงโครงสร้างครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้โครงสร้างองค์กรกระชับ (Lean Organization) สอดรับกับภารกิจเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการบริหารต้นทุน มีการบริหารและวิเคราะห์ข้อมูลที่เชื่อมโยงกันและครอบคลุมทุกภาคส่วนซึ่งจะสนับสนุนการวางแผนกลยุทธ์และพัฒนาองค์กรรวมทั้งการขายให้มีประสิทธิภาพและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์การแข่งขันมากยิ่งขึ้น ลดความซ้ำซ้อนของหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานและเพิ่มความเชื่อมโยงของงานที่มีความเกี่ยวพันกัน

ผลจากการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร จะทำให้บริษัทฯ มีสายงานบังคับบัญชาที่กระชับ การบริหารงานจึงสามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัว การปรับลดหน่วยงานในโครงสร้างงจะช่วยให้การควบคุมและกำกับดูแลมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ในขณะที่พนักงานในหน่วยงานที่มีการปรับปรุงโครงสร้างไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

4. การโยกย้ายสับเปลี่ยนผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่

คณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณา ถึงความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารระดับสูงในการแก้ไขปัญหาการดำเนินการของบริษัทฯ ให้บรรลุผลตามที่วางแผนไว้ โดยมุ่งเน้นการกำกับดูแล เร่งรัดการแสวงหารายได้อย่างใกล้ชิด จึงมีมติโยกย้ายสับเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูง ดังนี้

1...ให้นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายการพาณิชย์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่.ดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่

2. ให้นายธีรพล โชติชนาภิบาล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์

ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นต้นไป

การโยกย้ายสับเปลี่ยนดังกล่าว เพื่อให้ภารกิจการวางแผนกลยุทธ์และขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านต่างๆ ขององค์กร ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับภาระหน้าที่ของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่.ที่ต้องกำกับดูแลการดำเนินการของสายงานต่างๆ ให้เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ.และสามารถดำเนินการขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน

ในขณะที่การดำเนินการของสายการพาณิชย์ ต้องเร่งขับเคลื่อนการแสวงหารายได้อย่างเร่งด่วน และต้องมีการกำกับดูแลการหารายได้อย่างใกล้ชิด การที่คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ให้ นายธีรพลโชติชนาภิบาล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ มารับตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการการพาณิชย์ นั้น เพราะ นายธีรพลฯ มีความรู้ ความชำนาญ และมีประสบการณ์ตรงในงานของสายการพาณิชย์มายาวนาน เคยได้รับมอบหมายให้ดูแลงานในสายการพาณิชย์มาแล้วหลายด้าน เช่น งานวางแผนระบบข้อมูลสำรองที่นั่ง วางแผนการตลาด การดำเนินการและพัฒนาระบบการขาย การบริหารตราผลิตภัณฑ์และสื่อสารการพาณิชย์ ผู้จัดการประจำสำนักงานสาขาต่างประเทศ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายพัฒนาและสนับสนุนการพาณิชย์ อีกทั้งเคยรักษาการตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ มาแล้วด้วย ดังนั้น นายธีรพล จะสามารถเร่งผลักดันนโยบายในการแสวงหารายได้ในทันที