นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่ สนพ. ได้มอบหมายให้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ดำเนินโครงการ “ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานเชื้อเพลิงในเตาเผาและกระบวนการผลิตเซรามิก” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเซรามิกทั่วประเทศ ลดภาระต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะต้นทุนด้านพลังงาน เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2555 – เดือนพฤศจิกายน 2556 รวมระยะเวลา 18 เดือน
มช. ได้เปิดรับสมัครผู้ประกอบการเซรามิกทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อรับการปรับปรุงเตาเผาเซรามิกลดการใช้พลังงานใน 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.ปรับปรุงเตาเดิมที่มีผนังเซรามิกไฟเบอร์ที่ชำรุดให้มีผนังเซรามิกไฟเบอร์ใหม่ 2.เปลี่ยนเตาเดิมหรือเตาผนังอิฐทนไฟมาเป็นเตาใหม่ผนังเซรามิกไฟเบอร์ 3.เปลี่ยนเตาเดิมหรือเตาผนังอิฐทนไฟเป็นเตาใหม่ผนังเซรามิกไฟเบอร์ และให้มีการนำความร้อนส่วนทิ้งในไอเสียมาอุ่นอากาศสำหรับการเผาไหม้ พร้อมทั้งควบคุมประสิทธิภาพการเผาไหม้ และการใช้อิฐโพรงแทนอิฐทนไฟเพื่อลดน้ำหนักรถเข็นและข้างเตา ซึ่งแต่ละรูปแบบจะช่วยผู้ประกอบการลดการใช้เชื้อเพลิงลงได้ประมาณ 15 - 50%
จากการสรุปผลการดำเนินงาน พบว่า โครงการดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเซรามิกทั่วประเทศ สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดย มช. ได้ทำการปรับปรุงและเปลี่ยนเตาเผาเซรามิกประสิทธิภาพสูงรวมทั้งสิ้น 207 เตา ช่วยลดการใช้ก๊าซ LPG ได้ปีละ 746 ตัน คิดเป็นเงิน 23 ล้านบาท
“ตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา สนพ. ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเซรามิก ลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนด้านพลังงาน ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพเตาเผาเซรามิก เพื่อลดการรั่วไหลของความร้อนและก๊าซ LPG มาอย่างต่อเนื่อง สามารถลดการใช้ก๊าซ LPG ได้เป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผู้ประกอบการเซรามิกสามารถลดต้นทุนด้านพลังงานอย่างยั่งยืน และมีทางเลือกอื่นในการใช้เชื้อเพลิงประเภทมากขึ้น สนพ. จึงได้มอบหมาย มช. ทำการศึกษานำชีวมวลระดับชุมชน อาทิ เศษไม้ หญ้า ฟางข้าว ฯลฯ มาพัฒนาเป็นเชื้อเพลิงใช้ทดแทนก๊าซ LPG ในอุตสาหกรรมเซรามิก ซึ่งนอกจากจะช่วยลดภาระต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการผลิตพลังงานทดแทนในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมอีกด้วย” ผอ.สนพ. กล่าว