กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จับมือภาคอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังไทย เตรียมเดินหน้าจัดงานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง2557 หรือ Bangkok International Fashion Fair and Bangkok International Leather Fair 2014 (BIFF&BIL 2014) มั่นใจเปิดเวทีแสดงสินค้าระดับนานาชาติครั้งใหญ่ในอาเซียน ผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแฟชั่นและเครื่องหนังในภูมิภาค เผยยอดผู้ประกอบการไทยและต่างชาติตอบรับเข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 700 คูหา ขณะที่กรมฯ เร่งทำแผนการค้าเชิงรุกเจาะกลุ่มผู้ซื้อโดยตรง หวังดึงดูดคู่ค้าร่วมงานกว่า 6,000 ราย กระตุ้นคำสั่งซื้อไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาคอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกล่าวถึงการจัดงานBIFF&BIL 2014 ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 12 – 16 มีนาคมนี้ ว่า จากการที่มีสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ประชุมหารือและสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแฟชั่นสิ่งทอและเครื่องหนังที่สมัครเข้าร่วมงานBIFF & BIL ในปีนี้ปรากฏว่าผู้ประกอบการไทยกว่าร้อยละ 90 ต่างแสดงความคิดเห็นตรงกันให้เดินหน้าจัดงานตามกำหนดการเดิม เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศและกระตุ้นความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการ ผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศเนื่องจากเล็งเห็นว่างาน BIFF & BILเป็นงานแสดงสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังครั้งใหญ่ในอาเซียน ถือเป็นเวทีการค้าระดับนานาชาติที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 32 ปี และมีส่วนช่วยส่งเสริมการส่งออกสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ภาพรวมของอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังไทยในปี 2556 ถือว่ามีแนวโน้มขยายตัวได้ดี โดยการส่งออกของปี 2556 มีมูลค่า 9,223.67 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งออกเป็น สินค้าผ้าผืนและเส้นด้าย 2,525.26ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.85 สินค้าเครื่องนุ่งห่ม มูลค่า 2,873.50 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลงร้อยละ 2.58 สินค้าสิ่งทออื่นๆ มูลค่า 2,083.82 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.61 และสินค้าเครื่องหนัง เครื่องใช้ในการเดินทางและรองเท้า มีมูลค่าส่งออก 1,741.08 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.36 สำหรับเป้าหมายการส่งออกสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังในปี 2557 กรมฯ คาดว่าจะสามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายร้อยละ 5 เนื่องจากปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวและแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักของไทยดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีในการเดินหน้าจัดงาน BIFF&BIL 2014ให้เป็นเวทีการค้าที่ผู้ผลิต ผู้ซื้อ ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า ดีไซเนอร์และผู้จัดจำหน่ายได้มาพบปะเจรจาธุรกิจเพื่อขยายช่องทางสู่ตลาดโลก
“การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 มาพร้อมกับโอกาสการค้าที่มากขึ้น เนื่องจากฐานลูกค้าได้ขยายครอบคลุมประชากรกว่า 600 ล้านคน ผู้ประกอบการจึงต้องพัฒนาธุรกิจ ศึกษาตลาด เพื่อเตรียมพร้อมรองรับโอกาสและการแข่งขันที่มากขึ้นด้วยในขณะที่กรมฯ ได้เร่งทำแผนการค้าเชิงรุกเพื่อเจาะเข้าถึงผู้ซื้อกลุ่มเป้าหมายด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด อาทิ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าแฟชั่นที่สำคัญในต่างประเทศ การจัดคณะผู้แทนการค้าไปเจรจาการค้ากับผู้ซื้อรายใหญ่ในตลาดศักยภาพรวมถึงการนำคณะผู้แทนการค้าจากต่างประเทศมาเยือนไทย
ด้วย ทั้งนี้ งาน BIFF&BIL 2014ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยได้มีโอกาสสร้าง และรักษาเครือข่ายการค้ากับผู้ซื้อที่มีศักยภาพทั้งในตลาดใหม่และตลาดเดิมเช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ไต้หวัน ยุโรป รวมถึงอเมริกาและอื่นๆ ที่คาดว่าจะสนใจเข้าชมงานกว่า 6,000 ราย และผลักดันยอดคำสั่งซื้อไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท” อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว
สำหรับงาน BIFF&BIL 2014 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 16 มีนาคม 2557 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานีภายใต้แนวคิด STYLE+DESIGN ASEAN เพื่อเผยแพร่ศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังไทยที่มีกระบวนการผลิตที่ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยการสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต การตลาดและการค้าสิ่งทอและเครื่องหนังที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย พร้อมทั้งเปิดเวทีให้นักออกแบบสินค้าแฟชั่นได้แสดงผลงานและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีศักยภาพในการผลิตและการออกแบบได้มีโอกาสขยายช่องทางการค้าสู่ตลาดโลก
จุดเด่นของงานในปีนี้ คือเป็นการพัฒนารูปแบบงานให้มีความน่าสนใจและเป็นสากลมากขึ้น โดยมีผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศอาทิ กลุ่มอาเซียน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, จีน, ไต้หวัน, ยุโรปและสหรัฐอเมริกา ตอบรับนำสินค้าเข้าร่วมจัดแสดงกว่า 700 คูหาแบ่งพื้นที่ออกเป็นหมวดหมู่ ด้วยแนวคิด Fair-in-Fair ประกอบด้วย สินค้าสิ่งทอ (Textile), เครื่องนุ่งห่ม (Apparel), เครื่องประดับแฟชั่น (Fashion Accessories),เครื่องหนัง (Leather Goods), รองเท้า (Footwear), หนังฟอกสำเร็จ (Tanned Leather), แฟชั่นและเครื่องหนังที่มีเอกลักษณ์หรือลวดลายเฉพาะตัว(Thai Exotic), ดีไซเนอร์ (Designer)และสินค้าแบรนด์จากต่างประเทศ (International Zone)
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ อาทิ การจับคู่ธุรกิจ Business Matching, นิทรรศการ Small Lot Order ตอบโจทย์ความต้องการสั่งซื้อสินค้าปริมาณน้อย แต่เน้นคุณภาพและดีไซน์ตามความต้องการการแสดงผลงานผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการพัฒนาการออกแบบในโครงการWorkshop โดย ผศ.ดร.อโนทัยชลชาติภิญโญ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งทอของไทย จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นิทรรศการจัดแสดงสินค้าและแนวโน้มเครื่องหนัง และนิทรรศการแสดงผลงานการออกแบบจาก 30 ดีไซเนอร์รุ่นใหม่มาโชว์ใน Designers’ Room และพื้นที่จัดแสดงผลงานของดีไซเนอร์แบรนด์ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ
อีกทั้งยังมีนิทรรศการแสดงผลงานการออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นในโครงการ Asia Fashion Federation (AFF), จาก 6 ประเทศสมาชิก ผลงานสินค้าที่ได้รับการพัฒนาจากศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์แฟชั่น Fashion Product Development Center (FPDC), การจัดแสดงผ้าผืนจากโครงการ Japan – Thailand Textile and Apparel Collaboration (JTC ) ที่เป็นการพัฒนาทั้งนวัตกรรมการผลิตและรูปแบบระหว่างไทย-ญี่ปุ่นเพื่อจำหน่ายในตลาดญี่ปุ่นนอกจากนี้ ภายในโซนอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ยังมีการแสดงนวัตกรรมสิ่งทอ เช่น เส้นใยทอละเอียดเพื่องานสิ่งทอคุณภาพสูงรองรับการผลิตสินค้าแฟชั่นแบรนด์ชั้นนำของโลก การพัฒนาเส้นใยธรรมชาติใหม่ๆ และการผสมผสานกับเส้นใยต่างๆรวมไปถึงการฟอกย้อมโดยการใช้วัสดุธรรมชาติไม่ใช้สารเคมี (Natural dye) และการทดลองการฟอกย้อมแบบไม่ใช้น้ำเป็นนวัตกรรมใหม่เน้นการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้ซื้อในตลาดโลกที่ต้องการสินค้าคุณภาพสูง โดยเฉพาะใน ตลาดญี่ปุ่น และยุโรป
ในส่วนของอุตสาหกรรมเครื่องหนังมีการจัดแสดงสินค้าเครื่องหนังตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ รวมทั้งนวัตกรรมการผลิตหนังใหม่ๆ อาทิ การพัฒนาหนังที่มีน้ำหนักเบาเพื่อตอบโจทย์เครื่องหนังแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และผลิตภัณฑ์หนังสัตว์ที่มีเอกลักษณ์หรือลวดลายเฉพาะตัว(Exotics Leather)ซึ่งไทยถือเป็นผู้นำด้านการผลิตเพื่อการส่งออกของโลก รวมทั้งยังมีการบรรยายแนะนำเทรนด์สินค้าเครื่องหนังปี 2014/15 โดยผู้เชี่ยวชาญจากอิตาลี อาทิ Mr.GiorgioCannaraนายกสมาคมเครื่องหนังอิตาลี Mr.Roberto Ricci ผู้กำหนดเทรนด์ในงานแสดงสินค้าLineapelleและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง Mipel
สำหรับกิจกรรมไฮไลท์ที่จัดขึ้นในปีนี้เป็นครั้งแรก ได้แก่นิทรรศการแสดงสินค้าแฟชั่นสำหรับผู้สูงอายุสำหรับผู้ซื้อกลุ่มใหม่ที่ต้องการซื้อสินค้าหลากหลายประเภทนอกจากนี้ ยังมีเวทีแสดงแฟชั่นโชว์ผลงานการออกแบบอันโดดเด่นของดีไซเนอร์ไทยและอาเซียน รวมถึงแบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่นเกาหลี และ สหรัฐอเมริกา ฯลฯ
“ขณะนี้ กรมฯ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์การจัดงาน BIFF & BIL 2014 ไปยังกลุ่มผู้ประกอบการ ผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยการประสานงานร่วมกับสำนักงานในภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ และ ทูตพาณิชย์ทั่วโลกกว่า 65 แห่ง รวมทั้งสำนักงานส่งเสริมการค้าในภูมิภาค เพื่อเชิญผู้ซื้อที่เป็นผู้ค้าส่ง ค้าปลีก และผู้ค้าชายแดน และเพื่อเป็นการเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานฯ กรมฯ ยังได้อำนวยความสะดวกในเรื่องของการนัดหมายจับคู่ธุรกิจ Business Matching แบบล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ www.biffandbilmatching.comเพื่อให้ผู้ซื้อได้สะดวกขึ้น” นางนันทวัลย์ กล่าวเพิ่มเติม
งาน BIFF&BIL 2014 เตรียมเปิดฉากในวันที่ 12 – 16 มีนาคม 2557 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยวันที่ 12 -14 มีนาคม 2557 เป็นวันเจรจาธุรกิจ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น. และวันจำหน่ายปลีก 15 - 16 มีนาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท อินทิเกรเต็ดคอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th