นายสุรเชษฐ์ กมลมงคลสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)ผู้นำด้านการผลิตเครื่องจักรกลระบบไฮดรอลิค เครื่องปั๊มขึ้นรูปโลหะวัสดุแบบต่าง ๆ รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในปี 2557 จากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้การบริโภคและการลงทุนจากภาคเอกชนสามารถขยายตัวได้ โดยเฉพาะการปรับเข้าสู่สมดุลของอุตสาหกรรมรถยนต์ มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปี 2556 อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองของประเทศไทย ที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ จึงต้องประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตต่อไป
นอกจากนี้บริษัทฯ ปรับกลุยทธ์ให้มีความสอดคล้อง และมุ่งหน้าบริหารจัดการ บริหารต้นทุนต่อหน่วยให้คุ้มค่าที่สุด บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เวียดนาม และพม่า ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯ คาดว่าจะสรุปได้ในเร็ว ๆ นี้ ก่อนหน้านี้ทางบริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนกับ SV ก่อสร้างและซ่อมแปลงเคหะสถาน จำกัด เป็นผู้นำธุรกิจก่อสร้างและซ่อมแปลงเคหะสถานในประเทศลาว ซึ่งเป็นประเทศแรกในการรุกตลาด AEC จึงตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็นร้อยละ 10-15 เพื่อเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2556 ที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.67 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 136.48 ล้านบาท ลดลง 129.81 ล้านบาท เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกการฟื้นตัวอย่างล่าช้า เศรษฐกิจที่เกิดการชะลอตัว รวมทั้งปัญหาทางการเมืองที่ยังไม่มีความแน่ชัด อีกทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่งผลกระทบต่อรายได้ ของบริษัทฯ
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสด จากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท โดยจะนำเสนอผ่านที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2557 ต่อไป กำหนดจ่ายปันผลวันที่23 พฤษภาคม 2557
“ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2556 ที่ผ่านมาติดลบจากปีก่อน ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการยานยนต์ ชะลอการลงทุน เลื่อนการผลิตออกไป ทำให้รายได้บริษัทฯลดลง อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีความเชื่อมั่น และมั่นใจว่า จากประสบการณ์ที่สะสมมายาวนานกว่า 40 ปี ในด้านการเป็นผู้นำเรื่องระบบไฮดรอลิค จะเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้ บริษัทฯ เติบโต แข็งแกร่งในอนาคต” นายสุรเชษฐ์ กล่าว
ด้านนายธีรภาพ กมลมงคลสุข กรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงความเป็นผู้นำในเรื่องการผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรระบบไฮดรอลิค โดยเฉพาะความสามารถในการผลิตเครื่องเพรสขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในกระบวนการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ คือลูกค้าของเราที่อยู่ในระดับแนวหน้าของโลกอย่างเช่น Toyota,Honda,Nissan,Mitsubishi และ Ford บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดในการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการกับกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ เป็นการกระจายความเสี่ยงในการพึ่งพิงตลาดยานยนต์เพียงอย่างเดียว บริษัทฯ ได้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้า โดยการแต่งโบรกเกอร์และดีลเลอร์ตามจังหวัดต่าง ๆ อาทิ เชียงราย นครสวรรค์ พิษณุโลก อุดรธานี นครปฐม สุราษฎร์ธานี และสงขลา เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ของแผนยุทธศาสตร์ เป็นการเตรียมความพร้อมรุกตลาด AEC ในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ประเทศเวียดนาม พม่า หลังจากประสบความสำเร็จในการจัดตั้ง TMC-LAO
“บริษัทฯ มีโชว์รูมอยู่ในจังหวัดชลบุรี และ หาดใหญ่ เพื่อให้ง่ายต่อการกระจายสินค้าไปสู่ลูกค้า การวางกลยุทธ์ ของเรา คือเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการแต่งตั้งโบรกเกอร์ และดีลเลอร์ นอกจากนี้ บริษัทฯ หวังสร้างโอกาสทางการตลาดจากการเยี่ยมเยียนลูกค้า รายเดิมและรายใหม่ อย่างต่อเนื่อง ในการนำเสนอสินค้าเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของลูกค้าที่ทางบริษัทฯ ที่ได้รับออเดอร์อยู่แล้วนั้น เพื่อเป็นสนับสนุนให้ยอดขายเพิ่มขึ้น บริษัทฯ มีสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรในธุรกิจที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีการลงทุนเพิ่มเติม” นายธีรภาพกล่าว