ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ทิสโก้ เวลธ์ (TISCO Wealth) ระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในครั้งนี้ กลุ่มประเทศเอเชียเหนือ ซึ่งประกอบด้วย จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน และฮ่องกง เป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดโดยเฉพาะในภาคการส่งออก ที่มีแนวโน้มการขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้ว อาทิสหรัฐอเมริกาและยุโรป นอกจากนี้เอเชียเหนือยังเป็นฐานการผลิตและส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน โดยมีมูลค่าส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รวมกันประมาณ 43% ของโลก ทำให้เอเชียเหนือมีความสามารถในการแข่งขันสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีนี้
ทั้งนี้ ความโดดเด่นของหุ้นเอเชียเหนือยังอยู่ที่ราคาหุ้นที่ยังอยู่ในระดับที่ถูก เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเกิดใหม่ อีกทั้งการฟื้นตัวของสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น รวมทั้งค่าเงินที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลดีต่อกำไรของบริษัทในกลุ่มเอเชียเหนือจากการขยายตัวของการส่งออกอีกด้วย โดยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจะเป็นแรงผลักดันให้แต่ละตลาดมีโอกาสเติบโตมากกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง ทำให้ปีนี้กลุ่มเอเชียเหนือมี Upside เฉลี่ยอยู่ถึง 35 % ดังนั้นช่วงเวลานี้จึงเป็นจังหวะที่ผู้ลงทุนควรเข้าลงทุนในเอเชียเหนือ
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) กล่าวว่า จากความโดดเด่นของตลาดหุ้นเอเชียเหนือและแนวโน้มเศรษฐกิจที่เติบโตแข็งแกร่ง บลจ.ทิสโก้ จึงได้เปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ นอร์ธ เอเชีย อิควิตี้” เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเหนือ โดยมีนโยบายการลงทุนในกอง ETF ในฮ่องกง เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงหุ้นเอเชียเหนือ 4 ประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูงและมีผลประกอบการที่โดดเด่น อาทิ ไชน่าโมบายล์ ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายใหญ่ที่สุดของจีน, ธนาคารแห่งประเทศจีน, ธนาคารเอชเอสบีซี, ซัมซุง อิเล็คทรอนิคส์ ผู้ผลิตมือถือรายใหญ่ของโลกจากเกาหลีใต้, เนเวอร์ คอร์ปอร์เรชั่น บริษัทแม่สัญชาติเกาหลีใต้ของผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น LINE, ฮุนได มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนตรายใหญ่ของเกาหลีใต้ และไต้หวันเซมิคอนดักเตอร์ ผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของไต้หวัน เป็นต้น
“ตลาดหุ้นเอเชียเหนือมีความโดดเด่นมาก และทิสโก้มองว่าจะเป็นตลาดที่สร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุดในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่ง และเป็นแรงดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากทั่วโลก อีกทั้งยังได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ที่จะหนุนภาคการส่งออกให้เติบโตในระดับที่สูง ขณะที่เมื่อดูราคาหุ้นพบว่ายังถูกเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศอื่นๆ โดยหุ้นจีนและเกาหลีใต้ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 8-9 เท่า ขณะที่หุ้นสหรัฐ และยุโรป P/E อยู่ที่ประมาณ 12-15 เท่า ส่วนหุ้นไทยปัจจุบัน P/E เกิน 12 เท่าแล้ว
ดังนั้นในช่วงที่ราคาหุ้นเอเชียเหนือยังถูก เราจึงมองว่าเป็นจังหวะเหมาะที่จะเข้าลงทุน จึงเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ นอร์ธ เอเชีย อิควิตี้ ซึ่งเป็นกอง Open ended ซื้อขายได้ทุกวันทำการ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงไปต่างประเทศ และมั่นใจว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดี เช่นเดียวกับกองทริกเกอร์หุ้นเอเชียเหนือ ที่เราเสนอขายไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา” นายสาห์รัช กล่าว
โดย “กองทุนเปิด ทิสโก้ นอร์ธ เอเชีย อิควิตี้” เหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ และต้องการกระจายความเสี่ยงของการลงทุนไปยังตลาดต่างประเทศ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในประเทศ โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) ระหว่างวันที่ 4 – 12 มี.ค. 57 นี้ ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 633 6000 กด 4
สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดได้ที่ ฝ่ายนิเทศสัมพันธ์ บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป โทร.02 633 6906