ก.ล.ต. และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทยสมาคมธนาคารนานาชาติ และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เปิดตัว “โครงการสานฝันเริ่มด้วยพันบาท”โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนวัยทำงานทั่วประเทศมีวินัยในการออม และลงทุนในกองทุนรวมที่เข้าร่วมโครงการเป็นประจำทุกเดือนและต่อเนื่องด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายของชีวิตในระยะกลางและระยะยาวรองรับวัยเกษียณอายุ ขณะที่ประชาชนในวัยทำงานส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสำคัญกับการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ โดยเริ่มออมเมื่อมีอายุมากแล้ว ด้วยจำนวนเงินไม่มากและออมในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนน้อยกว่าที่ควร ซึ่งเติบโตไม่ทันกับอัตราเงินเฟ้อ
โครงการสานฝันเริ่มด้วยพันบาทมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เข้าร่วมจำนวน 16 บริษัท และมีกองทุนรวม46 กอง ซึ่งเป็นกองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนรวมผสม และกองทุนรวมที่ปรับเปลี่ยนการลงทุนตามอายุ โดยผู้ลงทุนเลือกลงทุนได้ตามความต้องการที่สอดคล้องกับผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลงทุนของตนในระยะกลางถึงระยะยาว ผู้สนใจลงทุนสามารถเปิดบัญชีและซื้อหน่วยลงทุนได้โดยตรงผ่าน บลจ. บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และสาขาของธนาคารพาณิชย์
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า การบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้จะต้องเกิดจากการลงทุนอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ซึ่งทุกคนสามารถทำได้หากมีวินัยในตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนมากมายโครงการนี้เป็นการส่งเสริมการลงทุนอย่างสมัครใจ ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานซึ่งอาจมีรายได้ไม่สูงนัก เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่เพียงพอและสามารถตอบสนองความต้องการของชีวิต ซึ่ง ก.ล.ต. พร้อมที่จะสร้างความรู้ความเข้าใจด้วยการจัดทำเอกสารความรู้เพื่อเผยแพร่ผ่านบล. บลจ. และสาขาธนาคาร ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่ประชาชนใช้ตัดสินใจลงทุนมากที่สุด และเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยจุดประกายให้แก่ประชาชนให้เห็นถึงความสำคัญและเริ่มลงทุนอย่างจริงจัง อีกทั้งเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การเพิ่มระดับการออมการลงทุนของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
นายสมจินต์ ศรไพศาล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า กองทุนรวมเป็นเครื่องมือเพื่อการลงทุนที่มีนโยบายการลงทุนหลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนที่รับความเสี่ยงได้ต่างกันสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะปานกลางและระยะยาว เพื่อช่วยรักษามาตรฐานการดำรงชีวิตในอนาคตบลจ. พร้อมที่จะบริหารเงินลงทุนและสนับสนุนให้ผู้ลงทุนรายย่อยมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการลงทุนและเริ่มลงทุนในกองทุนรวมอย่างมีวินัย และสามารถบรรลุเป้าหมายของชีวิตได้ในที่สุด
นางเกศรา มัญชุศรี รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าปัจจุบันประชาชนจำนวนมากสนใจลงทุนในตลาดทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนนอกเหนือจากแหล่งเงินออมที่คุ้นเคยสำหรับผู้ลงทุนมือใหม่ที่สนใจลงทุนแต่ยังไม่พร้อมหรือความเข้าใจที่เพียงพอ กองทุนรวมเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเนื่องจากมีมืออาชีพบริหารการลงทุนให้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้ความสำคัญต่อการสร้างผู้ลงทุนคุณภาพที่ลงทุนอย่างมีหลักการและมีวินัย จึงได้ให้ความรู้และสนับสนุนการลงทุนในกองทุนรวมผ่านแผนงานและโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะโครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวมซึ่งดำเนินการมาเป็นปีที่ 11 และเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นอีกแรง
กระตุ้นให้ประชาชนหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอมากขึ้น
นายชาติศิริ โสภณพนิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ธนาคารตระหนักถึงบทบาทของการเป็นสถาบันตัวกลางในการส่งเสริมการออมการลงทุนให้แก่ประชาชน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่และสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตในอนาคต โดยเป็นจุดขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ซึ่งรวมถึงการเป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุนให้กับ บลจ.อีกทั้งเป็นช่องทางให้ความรู้ความเข้าใจที่สนับสนุนประชาชนส่วนใหญ่ในการตัดสินใจการออมการลงทุนด้วยสาขากว่า 6,600 แห่งทั่วประเทศ สมาคมฯ พร้อมสนับสนุนให้โครงการนี้บรรลุเป้าหมายในการส่งเสริมให้ประชาชนวัยทำงานมีความรู้ความเข้าใจและลงทุนอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง พร้อมไปกับการพัฒนาคุณภาพบุคลากรของธนาคารและการให้บริการในด้านตลาดทุนอย่างเต็มที่
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า บริษัทหลักทรัพย์พร้อมสนับสนุนการลงทุนผ่านกองทุนรวมโดยมีจุดแข็งจากการเป็นตัวแทนการขายกองทุนรวมของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนหลายแห่งซึ่งบริษัทหลักทรัพย์สามารถเปรียบเทียบผลตอบแทนและให้คำแนะนำในการเลือกหน่วยลงทุนให้เหมาะสมกับผู้ลงทุน พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ลงทุนที่มีเวลาจำกัด แต่ต้องการทางเลือกในการลงทุนที่มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งนี้ การลงทุนอย่างมีวินัยผ่านกองทุนรวมจะช่วยส่งเสริมการขยายตัวของผู้ลงทุนสถาบัน ส่งผลให้เกิดความสมดุลกับผู้ลงทุนรายย่อย และช่วยลดผลกระทบหากเกิดความตื่นตระหนกในตลาดทุนเป็นผลดีต่อการสร้างเสถียรภาพและความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในตลาดทุนไทย