ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้แนะนำนักธุรกิจไทยที่ต้องการเข้าไปลงทุนในเมียนมาร์ว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการเข้าไปลงทุนในเมียนมาร์ก็คือ การหาพันธมิตรที่ดี เพราะมีความสำคัญมาก แต่ไม่ควรเร่งรีบ ต้องใช้เวลาเพื่อให้ได้คู่ค้าที่ดีที่สุด ซึ่งธุรกิจที่เห็นว่ามีโอกาสที่ดีในการเข้าไปรุกตลาด คือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานบริการ เช่น ทัวร์ ร้านอาหาร รวมไปถึงธุรกิจโรงแรมที่ยังเปิดกว้าง หรือด้านโทรคมนาคม เนื่องจากปัจจุบันการสื่อสารในเมียนมาร์ยังไม่ครอบคลุม
ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจให้เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ของเมียนมาร์ อย่างเครือ IGE ที่มีธุรกิจโรงแรม ธนาคาร พลังงาน และโทรคมนาคม โดยจะมีการจัดอบรมให้กับผู้บริหารในองค์กรกว่า 250 คน มุ่งเน้นการสร้างศักยภาพผู้บริหารเมียนมาร์ให้เทียบเท่าบริษัทข้ามชาติ พร้อมถ่ายทอดความรู้ด้านระบบบริหารจัดการองค์กรและการจัดทำแผนยุทธศาสตร์สำหรับพัฒนาองค์กรโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ ภายในปีนี้บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศลาว เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ซึ่งจะเกิดขึ้นในปี 2558 โดยจะมีคอร์สฝึกอบรมที่จะพัฒนาศักยภาพทั้งด้านภาษาและการยกระดับมาตรฐานการให้บริการ การขายและการตลาดให้ทัดเทียมนานาชาติ ซึ่งในแต่ละประเทศของประชาคมอาเซียนมีความแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งในด้านวัฒนธรรม การคมนาคม และพฤติกรรมการบริโภค