ทั้งนี้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ จะลงทุนครั้งแรกในกรรมสิทธิ์โครงการอาคารสิริภิญโญประกอบด้วย ที่ดินเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ 3 งาน 13.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยภายในอาคารรวม 41,758 ตารางเมตร ระบบสาธารณูปโภค งานระบบต่างๆ รวมถึงกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ จากบริษัท ปภานัน จำกัดโดยมีบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ โดยทั้งสองบริษัทเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด
สำหรับจุดเด่นของกองทุนนี้คือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ตกลงรับประกันกำไรจากการดำเนินงานของโครงการอาคารสิริภิญโญ ให้แก่กองทุนรวมเป็นระยะเวลา 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่กองทุนรวมเข้าลงทุน จำนวน 114.2 ล้านบาท เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน นอกจากนี้อาคารสำนักงานยังตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ โดยอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTS) และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ (ARLสถานีพญาไทเพียง 150 เมตรและ 250 เมตร ตามลำดับ ตลอดจนมีการบริหารจัดการโดย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์และความพร้อมในการบริหารอสังหาริมทรัพย์ทั้งจากภาครัฐและเอกชนมากว่า 15 ปี โดยได้รับความไว้วางใจในการบริการทางด้านอสังหาริมทรัพย์กว่า 200 โครงการ รวมพื้นที่กว่า 6.5 ล้านตารางเมตร
นางโชติกา กล่าวว่า ภายหลังจากที่กองทุนเข้าลงทุนครั้งแรกในโครงการอาคารสิริภิญโญแล้ว บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือบริษัทที่มีความเกี่ยวข้อง ตกลงจะเข้าทำสัญญาเช่าพื้นที่ประมาณ 11,813 ตารางเมตร ซึ่งคิดเป็นพื้นที่ร้อยละ 64.33 ของพื้นที่ให้เช่าภายในอาคาร โดยมีระยะเวลาการเช่า 3 ปี ที่อัตราค่าเช่าและค่าบริการรวมตารางเมตรละ 580 บาทต่อเดือน 600 บาทต่อเดือน และ 620 บาทต่อเดือน ในปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 ตามลำดับ และตกลงให้คำมั่นที่จะเช่าพื้นที่ดังกล่าวต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 2 ปี ที่อัตราค่าเช่าและค่าบริการรวมตารางเมตรละ 640 บาทต่อเดือนและ 650 บาทต่อเดือน ในปีที่ 1 และปีที่ 2 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังตกลงจะรับประกันอัตราค่าเช่าและค่าบริการ สำหรับพื้นที่ให้เช่าที่ว่างอยู่ในปัจจุบันก่อนที่กองทุนจะเข้าลงทุนประมาณ 3,404 ตารางเมตร เป็นระยะเวลา 3 ปี ที่ตารางเมตรละ 550 บาทต่อเดือนด้วยเช่นกัน
สำหรับภาพรวมธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่ายังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งฝ่ายวิจัยและ พัฒนา บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด พบว่า ความต้องการพื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่าในเขตกรุงเทพ มหานครปรับตัวสูงขึ้น โดยในไตรมาส 2 ของปี 2556 มีผู้เช่าพื้นที่สูงถึง 6.99 ล้านตารางเมตร และคาดว่าอัตราค่าเช่ายังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในย่านศูนย์กลางธุรกิจ เนื่องจากความต้องการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานที่เพิ่มขึ้นจากขยายตัวของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อม (SME) และธุรกิจต่างชาติ ในขณะที่พื้นที่ให้เช่ายังมีอยู่อย่างจำกัด และอาคารสำนักงานที่เกิดขึ้นใหม่ก็มีอัตราค่าเช่าที่สูงขึ้น