นายไมค์ แบทเชเลอร์ กรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรมของเจแอลแอล กล่าวว่า “ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หัวหินได้กลายเป็นตลาดโรงแรมที่มีการเติบโตสูงทั้งในแง่ของอุปสงค์และอุปทาน จากการที่หัวหินอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงประมาณสองชั่วโมงทางรถยนต์ ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวช่วงเสาร์อาทิตย์และวันหยุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเมืองเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวยุโรป และนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น ดังสะท้อนให้เห็นได้จากการที่โรงแรมมียอดการเข้าใช้บริการห้องพักเฉลี่ยตลอดปีที่ระดับ 70%”
“การเสนอขายโรงแรมที่มีคุณสมบัติเหมาะสำหรับการลงทุน เกิดขึ้นไม่บ่อยมากนักในประเทศไทย โดยเฉพาะโรงแรมที่มีผลประกอบการดีและมีศักยภาพที่มูลค่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ดังเช่น ฮิลตันหัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งตั้งอยู่ทำเลที่ดี มองเห็นวิวสวย และบริหารโดยเชนโรงแรมระดับโลก” นายไมค์กล่าว
ฮิลตันหัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา ตั้งอยู่บนที่ดินติดชายหาดเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ ในใจกลางเมืองหัวหิน ประกอบด้วยห้องพัก 298 ห้อง ซึ่งมีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 42 ตารางเมตรสำหรับห้องสแตนดาร์ด ไปจนถึง 450 ตารางเมตรสำหรับห้องสูท โดยทุกห้องสามารถมองเห็นวิวทะเลโดยไร่สิ่งกีดขวาง ภายในโรงแรมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ได้แก่ ห้องบอลล์รูมขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในหัวหิน และร้านอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุด อาทิ ห้องอาหาร หัวหิน บริววิ่ง คอมพานี และห้องอาหารบนชั้นดาดฟ้าที่สามารถมองเห็นวิวมุมกว้างของอ่าวไทย
นอกจากนี้ จุดเด่นสำคัญอีกประการหนึ่งของโรงแรมคือการเป็นอาคารสูงซึ่งมีพื้นที่โดยรวมมากกว่า 51,000 ตารางเมตร ในขณะที่กฎหมายผังเมืองใหม่ของหัวหินไม่เปิดโอกาสให้มีการสร้างอาคารสูงริมหาดได้อีก
เจแอลแอลเพิ่งเริ่มนำเสนอการขายโรงแรมฮิลตันหัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา ในสัปดาห์นี้ และเริ่มมีนักลงทุนทั้งชาวไทยและจากต่างประเทศแสดงความสนใจเข้ามาแล้ว
ดาวน์โหลดรูป: http://www.jll.in.th/thailand/PublishingImages/Hilton-Hua-Hin.jpg
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
วินัย ใจทน
02 624 6540