นายประณิธาน พรประภา รองผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ จำกัด ในกลุ่มธุรกิจ สยามกลการผู้จำหน่ายเครื่องจักรกลหนักอันดับ 1 ของเมืองไทย ภายใต้แบรนด์ KOMATSU เปิดเผยว่า บริษัทฯ พัฒนาธุรกิจ ทั้งทางด้านการขายและการบริการหลังการขายมาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่ยอมรับในแวดวงธุรกิจเครื่องจักรกลหนักของเมืองไทย ด้วยยอดขายอันดับ 1 ถือเป็นผู้นำ ในธุรกิจนี้ และเพื่อเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจของเรา ทางบริษัทฯ จึงได้ลงทุนมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ในการจัดสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ บนพื้นที่กว่า 45,000 ตร.ม. โดยตั้งอยู่ 28/9 หมู่ 3 ถนนบางนา-ตราด กม.23 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ 0-2663-2666 โทรสาร 0-2663-2667 เพื่อเพิ่มความสามารถในการให้บริการพร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า นอกเหนือจากพื้นที่สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ ที่มีความพร้อมทางด้านเครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อรองรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ของโคมัตสุ รวมถึง ในส่วนของคลังอะไหล่ที่มีชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ทั้งหมดนี้เพื่อคงความเป็นที่ 1 ในอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนักของเมืองไทย
“สำนักงานใหญ่แห่งใหม่อยู่ไม่ไกลจากเดิม แต่พื้นที่การใช้สอยและความพร้อมทางด้านสถานที่นั้น มีความพร้อมที่สูงกว่า โดยสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ บนเนื้อที่ทั้งหมด 44,696 ตารางเมตร ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ คือ
- ตัวอาคารสำนักงานใหม่ 4,480 ตร.ม
- คลังอะไหล่ขนาดใหญ่ 4,000 ตร.ม.มีอะไหล่สำรองกว่า 5,000 รายการพร้อมตัวแทนจากศูนย์รวมอะไหล่
ของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ [KPAC]
- ศูนย์ซ่อมและศูนย์บริการ พร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่น
- ศูนย์ฝึกอบรมความปลอดภัยและการใช้เครื่องจักรกลซึ่งอบรมโดยผู้เชี่ยวชาญพร้อมเครื่องมือครบครัน
- โรงพ่นสีระดับมาตรฐานโคมัตสุโดยโรงซ่อมของเรานั้นสามารถตรวจเช็ค และวินิจฉัยอาการเครื่องจักรได้ภายใน 1 วัน สามารถรองรับการซ่อมได้มากกว่า 10 คันต่อเดือน ด้านเครื่องยนต์ได้ถึง 6 เครื่องต่อเดือนและด้านปั๊มคอลโทรลสามารถซ่อมได้ 10 ลูกต่อเดือน ซึ่งจาก Capacity ตรงจุดนี้เรามั่นใจว่าเราจะรองรับการให้บริการหลังการขายกับลูกค้าได้อย่างครบถ้วน”
นายประณิธาน กล่าวต่อว่า นอกจากการเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่แล้ว ตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมาทางบริษัทฯได้ทำการปรับปรุงงานด้านบริการหลังการขายในภูมิภาคต่างๆ ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ ได้พัฒนาสาขาให้เป็นศูนย์บริการที่ทันสมัย พร้อมนำเครื่องมือใหม่ๆ จัดให้ในส่วนภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งสิ้น 10 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ภายในปี 2014 นี้ โดยในปัจจุบันบริษัทฯมีศูนย์บริการกว่า 22 สาขาครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ อาทิ สาขานวนคร, สระบุรี, นครสวรรค์, สำปาง, เชียงใหม่, อุดรธานี, นครราชสีมา, ระยอง, ราชบุรี,สุราษฎร์ธานี, ทุ่งสง, หาดใหญ่ และภูมิภาคต่าง ๆ ตลอดจนมีทีมบุคลากรผู้ชำนาญ ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรมากมาย รวมทั้ง มีคลังอะไหล่พร้อมให้บริการลูกค้าได้ทันทีทั่วประเทศ
สำหรับ ยอดขายในปี 2013 ที่ผ่านมานั้นทางบริษัทฯ มีรายได้สูงถึง 5,200 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายจากเครื่องจักรกลใหม่ ประมาณ 4,000 ล้านบาท และด้านอื่นๆ อีก 1,200 ล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาด คิดเป็น 22.7 เปอร์เซ็นต์ ของตลาดเครื่องจักรกลหนักในเมืองไทย และปีนี้จากการคาดการณ์แล้วด้วยสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ไม่สูงนัก เนื่องจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างรอบด้านทั้งเศรษฐกิจโลก รวมถึง เศรษฐกิจในไทย และเรื่องของการเมือง ส่งผลให้ปีนี้บริษัทฯ ได้ปรับเป้าลง โดยคาดว่าปีนี้รายได้ของบริษัทฯ น่าจะอยู่ที่ 4,250 ล้านบาท แต่ส่วนแบ่งการตลาดรวมคาดว่าจะโตขึ้นเป็น 25 % นายประณิธาน กล่าวทิ้งท้าย