นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากจากการบริหารกองทุนในกลุ่ม STARS Series ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ซึ่งมีลักษณะเด่นด้วยทีมผู้จัดการกองทุนสามารถคัดสรรหลักทรัพย์ และให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นได้เอง และส่วนใหญ่จะเน้นบริหารกองทุนแบบ Active Fund ดังนั้น เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงเปิดเสนอขาย “กองทุนแอสเซทพลัสสตาร์ 10 (ASP-STARS10)” ระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-3 เม.ย. โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก และใช้กลยุทธ์การจับจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม โดยเห็นโอกาสการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นหลังตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตั้งเป้าสร้างผลตอบแทน 8 เดือน 8%* และจะทยอยจ่ายผลตอบแทน 2 ครั้ง ครั้งละ 4% เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับกระแสเงินระหว่างทางการลงทุน โดยครั้งแรกกองทุนจะรับซื้อคือหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ผ่านระดับราคา 10.40 บาท จากราคาเสนอขาย 10 บาท และจ่ายครั้งที่ 2 เมื่อ NAV ผ่านระดับราคา 10.80 บาท
“จากความเชี่ยวชาญในการจับจังหวะการลงทุนในหุ้นทั่วโลก กอปรกับสัญญาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศญี่ปุ่น แม้บริษัทฯ จะเล็งเห็นโอกาสสร้างกำไรในตลาดหุ้นญี่ปุ่น แต่นโยบายการลงทุนยังเปิดกว้างการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเน้นจับจังหวะการลงทุนที่เหมาะสมที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้าได้ ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ASP-STARS10 จะเป็นทางเลือกการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้” นายรัชต์กล่าว
นายรัชต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Countries) จะเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่สามารถผลักดันให้เศรษฐกิจโลกในปีนี้มีโอกาสเติบโตขึ้นได้ โดยนักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่าในปีนี้ GDP โลกจะเติบโตได้มากถึง 2.5-3.0% ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของ GDP ที่ 2% เมื่อปี 2556 โดยเป็นการเติบโตที่มาจากการขยายตัวของประเทศสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น เป็นหลัก ในแง่มุมด้านการลงทุน มีการคาดการณ์ว่าปีนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะเป็นตลาดหุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุนได้กว่า 17% เนื่องจากยังเป็นตลาดที่คาดว่าจะมีการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนสูงสุด โดยผลประกอบการในไตรมาส 4/2556 ที่ผ่าน บริษัทจดทะเบียนในประเทศญี่ปุ่นมีกำไรเติบโตกว่า 30% ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์อยู่ที่ประมาณ 15% ทำให้นักวิเคราะห์ยังคงเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของกำไรในบริษัทจดทะเบียนจากประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปจะเติบโตสูงเฉลี่ยประมาณ 14% สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ กลุ่มการเงินธนาคาร กลุ่มยานยนต์ และกลุ่มการแพทย์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวน ได้ที่ Asset Plus Call Center 02-672-1111