บริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด ได้จัดสร้างห้องสมุดวิชาการและห้องสมุดนิทาน บนพื้นที่ 348 ตารางเมตรให้แก่โรงเรียนชุมชนวัดใหญ่โพหัก อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2556 นับเป็นโรงเรียนที่ 7 ที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการโลกนิทานของหนู และได้ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2556
จุดเด่นประการหนึ่งของห้องสมุดโรงเรียนชุมชนวัดใหญ่โพหัก คือ การเปิดให้บริการแก่ชาวชุมชนวัดใหญ่โพหักทั้ง 11 หมู่บ้านและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงสามารถเข้ามาใช้บริการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 9.00-12.00 น. จึงเป็นโรงเรียนภายใต้โครงการโลกนิทานของหนูเพียงหนึ่งเดียวที่มีการจัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นโต๊ะ-เก้าอี้สำหรับให้ผู้ใหญ่นั่งอ่านหนังสือได้ด้วย
หลังจากที่โรงเรียนชุมชนวัดใหญ่โพหักมีห้องสมุดโลกนิทานของหนู ทั้งผู้บริหารและคณะครูได้บูรณาการการใช้ห้องสมุดร่วมกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านกว่า 40 กิจกรรมให้แก่นักเรียนอย่างเข้มแข็งตลอดปีการศึกษา 2556-2557 ที่ผ่านมา ส่งผลให้นักเรียนมีประสิทธิภาพการเรียนรู้ที่สูงขึ้นและเห็นความสำคัญของการอ่านมากขึ้นเป็นลำดับ
ตัวแทนท่านผู้อำนวยการและคณะครูของโรงเรียนชุมชนวัดใหญ่โพหักที่เข้าร่วมในพิธีพระราชทานเกียรติบัตร ได้แก่ นายองอาจ วัฒนพงศ์ (ครูบรรณารักษ์) กล่าวว่า “รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่โรงเรียนของเราได้รับเกียรติให้มารับรางวัลห้องสมุดขนาดกลางดีเด่นจากสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ ต้องขอขอบคุณเพื่อนครูที่ช่วยกันพัฒนาห้องสมุด ขอบคุณท่านผู้บริหารโรงเรียนชุมชนวัดใหญ่โพหักที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริมในทุก ๆ ด้าน ขอบคุณบริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด คุณณรงค์ อิงค์ธเนศ และทีมงานของบริษัทฯ ทุกคนที่ได้มอบโอกาสดี ๆ ให้แก่โรงเรียนของเรา”
“รางวัลนี้สะท้อนถึงความใส่ใจและความสำเร็จในการพัฒนาด้านการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของเด็ก ๆ เพราะโดยพื้นฐานเดิมของนักเรียนที่โรงเรียนชุมชนวัดใหญ่โพหักยังไม่ค่อยมีนิสัยรักการอ่านเท่าที่ควร อาจจะมีบ้างเป็นบางกลุ่มหรือบางคน แต่พอเราได้รับห้องสมุดโลกนิทานของหนูเข้ามาแล้ว เราก็มีการบริหารจัดการและส่งเสริมกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ก็สะท้อนให้เห็นว่าเด็กนักเรียนเริ่มให้ความสำคัญกับการอ่านมากขึ้น รักการอ่านมากขึ้น เข้าห้องสมุดมากขึ้น ยืมหนังสือมากขึ้น นี่คือสิ่งที่เราพบการเปลี่ยนแปลงอย่างแรก”
“ประการที่สองคือ เพื่อนครูในโรงเรียนก็ให้ความสำคัญกับห้องสมุดเพิ่มมากขึ้น ส่งเสริมให้นักเรียนเข้ามาใช้ห้องสมุด เข้ามาอ่านหนังสือ มายืมหนังสือ ตลอดจนคุณครูเองก็เข้ามาใช้ห้องสมุดและมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านหรือบูรณาการเข้าไปในการเรียนการสอนตามปกติ”
“ประการที่สาม ชุมชนและผู้ปกครองของนักเรียนให้ความสำคัญกับการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของบุตรหลาน พยายามที่จะหาหนังสือให้บุตรหลานอ่าน พาบุตรหลานมาอ่านหนังสือที่ห้องสมุดโลกนิทานของหนู รวมถึงผู้ปกครองก็มาอ่านหนังสือและมาสมัครเป็นสมาชิกห้องสมุดด้วย นอกจากนี้ยังพยายามที่จะเผยแพร่ความสำคัญของห้องสมุดและการอ่านให้กับลูกหลานและเพื่อน ๆ ในชุมชนอีกด้วย”
นางบังเอิญ ทับสาย (ครูปฐมวัย) กล่าวว่า “ในส่วนดิฉันเองดูแลนักเรียนปฐมวัย นักเรียนที่นี่จะรู้สึกตื่นเต้นมากในการเข้าใช้ห้องสมุด และมีการพาผู้ปกครองมาเข้าห้องสมุดด้วย เป็นทำนอง “ลูกพาผู้ปกครองเข้าห้องสมุด” ซึ่งตอนนี้ผู้ปกครองได้มาสมัครเป็นสมาชิกประมาณ 80% แล้ว โดยเฉพาะผู้ปกครองปฐมวัยกับคุณครูปฐมวัย นอกจากนี้ ทางโรงเรียนยังได้จัด “ตะกร้าน่าอ่าน” มีหนังสือวางไว้ตามซุ้มและศาลา เมื่อผู้ปกครองมานั่งรอรับบุตรหลานก็จะหยิบหนังสือมาอ่าน เรายังมีกิจกรรม “สุดยอดครอบครัวนักอ่าน” โดยเด็กนักเรียนจะเลือกนิทานที่ตนเองชอบและนำกลับไปให้ผู้ปกครองเล่าให้ฟังที่บ้าน มีสมุดบันทึก “อ่านให้บุตรหลานฟัง” เมื่อนำมาส่งที่โรงเรียน ทางโรงเรียนก็จะให้คะแนน รวมถึงมีการบันทึกสถิติการเข้าห้องสมุด โดยประกวดผู้ชนะเลิศแต่ละเดือนมาแข่งขันในตอนปลายภาคเพื่อรับรางวัล ‘สุดยอดครอบครัวนักอ่าน’ อีกด้วยค่ะ”
นางพัชรินทร์ ยิ่งโกมล (ครูสังคมศึกษา) กล่าวถึงแนวทางบูรณาการการใช้ห้องสมุดกับการเรียนการสอนว่า “โดยปกติทางโรงเรียนมีการบูรณาการทุกสาระวิชาเกี่ยวกับการส่งเสริมการอ่านอยู่แล้ว ในส่วนดิฉันเองจะดูแลนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ส่วนใหญ่ก็จะให้นักเรียนอ่านพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และนำมาใช้ในการเรียนการสอน รวมทั้งให้ทำโครงงานเป็นกลุ่ม โดยให้เด็กนักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 5-7 คน และให้แต่ละกลุ่มไปสืบค้นข้อมูล โดยผลที่เห็นได้ชัดก็คือความสามัคคีและความร่วมมือกัน กล้าพูดและกล้าแสดงออกมากขึ้น รวมถึงมีการปรึกษากับคุณครูมากขึ้นค่ะ”
นางสาววิภา ทวีวงศ์ (ฝ่ายวิชาการ) ให้ทัศนะต่อการประยุกต์ใช้ห้องสมุดกับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ไว้ว่า “จุดแรกที่ต้องส่งเสริมคือการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน แม้จะมีการเรียนรู้จากแหล่งต่าง ๆ มากมาย แต่รากฐานที่สำคัญที่สุดก็คือนิสัยรักการอ่าน ในมุมมองของดิฉันอยากให้เด็กรักการอ่านและใช้การอ่านเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนรู้ โดยสิ่งสำคัญที่สุดก็คือห้องสมุดโลกนิทานของหนู ซึ่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ก็ต้องมีการเชื่อมโยงทั้งระบบและทั้งองค์กร เราจะไม่มุ่งไปที่เด็กเท่านั้น แต่ตัวครูและผู้บริหารตลอดจนชุมชนซึ่งถือว่าเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ควรให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะเด็กในศตวรรษที่ 21 ต้องมีความตื่นตัวและติดตามข่าวสารอยู่เสมอ ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีมากมายก็ตาม โดยรวมคือองค์กรแห่งการเรียนรู้ทั้งหมดต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะห้องสมุดโลกนิทานของหนูที่มีการเสริมสร้างจินตนาการ ซึ่งจินตนาการสามารถสร้างอะไรได้มากมาย รวมทั้งตัวบุคคล ถ้าเด็กนักเรียนมีจินตนาการขับเคลื่อนก้าวหน้าต่อไปก็จะสร้างประโยชน์ได้อย่างดียิ่ง”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด โทร.0-2661-6666, 0-2261-2900 ต่อ 1999,1133 หรืออีเมล [email protected]