บมจ. สุธากัญจน์ (SUTHA) เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 3 เม.ย. นี้

พุธ ๐๒ เมษายน ๒๐๑๔ ๑๖:๔๒
บมจ. สุธากัญจน์ (SUTHA) หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายปูนขาวสำหรับภาคอุตสาหกรรม พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 3 เม.ย. นี้ มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,110 ล้านบาท

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ. สุธากัญจน์ (SUTHA) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2557 นี้ โดยเป็นบริษัทจดทะเบียนลำดับที่ 3 ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีนี้

SUTHA ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าเคมีภัณฑ์ประเภทปูนขาว (แคลเซียมออกไซด์ และแคลเซียมไฮดรอกไซด์) แคลเซียมคาร์บอเนต สำหรับใช้ในกระบวนการผลิตของผู้ประกอบการในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมเหล็ก เคมี น้ำตาล เหมืองแร่ เยื่อและกระดาษ เป็นต้น

SUTHA มีทุนชำระแล้ว 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 225 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 75 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในราคาหุ้นละ 3.70 บาท เมื่อวันที่ 26-28 มีนาคม 2557 มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,110 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายเกียรติกุล มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. สุธากัญจน์ เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนโดยจะนำเงินที่ได้ไปใช้ขยายกำลังการผลิตลงทุนในระบบและเครื่องบดถ่านหินเพื่อรองรับการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศในอนาคต และลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจปูนขาว โดยเมื่อมิถุนายน 2556 บริษัทได้ทำบันทึกข้อตกลง (Memorandum of Agreement) กับบริษัทในกลุ่มของรัฐวิสาหกิจผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่รายหนึ่งของอินโดนีเซียในการศึกษาความเป็นไปได้เพื่อจัดตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture) ที่จะดำเนินธุรกิจเผาหินปูนเป็นปูนขาวร้อน (Quick lime) ในประเทศอินโดนีเซีย

หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SUTHA 3 ลำดับแรก ได้แก่ ครอบครัวมนต์เสรีนุสรณ์ ถือหุ้น 70.17% นางสาวต้องรัก กิจวัฒนชัย ถือหุ้น 1.67% และ นางสาวณัฐฐิญา ทองเจริญ ถือหุ้น 1.17% ทั้งนี้ การกำหนดราคา IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio ) 11 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิของบริษัทในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ไตรมาส 1 ถึงไตรมาส 4 ปี 2556) และหารด้วยจำนวนหุ้นภายหลังการเสนอขายต่อประชาชนในครั้งนี้ (Fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.34 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกับบริษัท (ระหว่างวันที่ 7 มีนาคม 2556-7 มีนาคม 2557) เท่ากับ 13.8 เท่า ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.goldenlime.co.th และที่เว็บไซต์ www.set.or.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ