ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียนครั้งที่ 18 (The 18th ASEAN Finance Ministers’ Meeting) ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์

อังคาร ๐๘ เมษายน ๒๐๑๔ ๐๙:๑๖
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน(ASEAN Finance Ministers’ Meeting : AFMM) ครั้งที่ 18 ระหว่างวันที่ 4-5 เมษายน 2557 ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ โดยมีนาย U Win Shein รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์เป็นประธาน ในการนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันหารือถึงความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียนและการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนตลอดช่วงปีที่ผ่านมา และหารือเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกและผลต่อเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน โดยมีประเด็นหลักที่สำคัญ ดังนี้

1.เศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน มีการเติบโตที่แข็งแกร่งและขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องจากปี 2556ที่มีอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ 5.1 ต่อปีโดยได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 ในขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศและภูมิภาคยังคงมีแรงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเสถียรภาพในภาคการธนาคารและภาคธุรกิจ และพื้นฐานเศรษฐกิจที่มั่นคง ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกอาเซียนในปี 2557จะขยายตัวในอัตราร้อยละ 4.7-5.3 ต่อปีซึ่งความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาเซียนอาจจะเผชิญที่สำคัญใน

ปี 2557 ได้แก่ 1) การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่นซึ่งอาจจะมากกว่าที่คาดไว้ 2) ความผันผวนของภาคการเงิน และเงินทุนเคลื่อนย้าย รวมถึงปฏิกริยาตอบรับที่เกินจริงในตลาดเงินและ 3) แรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ และการดำเนินนโยบายการเงินแบบหดตัวของสหรัฐฯซึ่งในที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียนครั้งนี้ได้ให้ความสำคัญกับนโยบายที่มุ่งรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและระบบการเงินเพื่อให้เกิดความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ โดยจะพึงระวังต่อการส่งผลต่อประเทศอื่นในภูมิภาค เน้นนโยบายการปฏิรูปเชิงโครงสร้างการสนับสนุนการลงทุนในภูมิภาค รวมถึงการยกระดับความร่วมมือและการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ

ปลัดกระทรวงการคลัง ได้แจ้งที่ประชุมว่าการที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยได้รับผลดีในสาขาการส่งออก ดังนั้น แม้ว่าจะมีผลกระทบจากการเมืองภายในประเทศ แต่อุปสงค์ภายนอกประเทศ โดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศ G-3จะสามารถขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้ที่ร้อยละ 2.6 ต่อปีในปี 2557 นอกจากนี้ นายรังสรรค์ฯ ได้ให้ความเห็นสอดคล้องกับ IMF ว่าการชะลอมาตรการ Quantitative Easing และผลกระทบจากความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายนั้นยังเป็นปัจจัยที่ยังน่าเป็นห่วงสำหรับเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ แต่ด้วยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศไทยทั้งในภาคการเงินและปริมาณเงินทุนสำรอง

ระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งนั้นทำให้เศรษฐกิจไทยพร้อมรองรับความเสี่ยงดังกล่าว

2. แผนการรวมตัวด้านนโยบายและระบบการเงินอาเซียน (Roadmap for Monetary and Financial Integration of ASEAN) ซึ่งช่วยสนับสนุนการเป็นตลาดและฐานการผลิตร่วมภายใต้แผนการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยมีความคืบหน้าหลักใน 3 ด้าน ได้แก่ (1) ด้านการเปิดเสรีบริการด้านการเงิน ประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ได้เสร็จสิ้นการเจรจาการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินรอบที่ 6 ได้ตามแผน และกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการระยะสุดท้ายเพื่อลงนามในร่างพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินรอบที่ 6และเตรียมพร้อมที่จะเริ่มการเจรจาการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินในรอบที่ 7 ต่อไป (2) ด้านการเชื่อมโยงตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียนที่ประชุม AFMM ได้พิจารณาสนับสนุนการเชื่อมโยงของระบบการโอนการชำระราคาและการรับฝากหลักทรัพย์ให้มีความสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งได้มีความคืบหน้าในการจัดทำบันทึกความเข้าใจในการกำหนดแนวทางการยอมรับมาตรฐานหน่วยลงทุนซึ่งกันและกันระหว่างไทยมาเลเซียและสิงคโปร์เพื่อส่งเสริมการเสนอขายกองทุนรวมข้ามประเทศในอาเซียนซึ่งจะเปิดให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.) ในประเทศที่ร่วมมือกันสามารถนำหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่ได้รับการอนุญาตแล้วในประเทศของตนไปเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปในประเทศภาคีได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น (3) ด้านการเคลื่อนย้ายเงินทุน มีความคืบหน้าในการจัดตั้งเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างธนาคารกลางอาเซียนในการดำเนินมาตรการและกลไกการปกป้องเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงจากความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต

3. ความร่วมมือด้านการเงินและรวมตัวทางเศรษฐกิจ มีความคืบหน้าหลักๆ ดังนี้ (1) ด้านการพัฒนาระบบระวังภัยและระบบติดตามความคืบหน้าการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ซึ่งสำนักงานติดตามการรวมตัวของอาเซียนได้พัฒนาเครื่องมือเพื่อใช้ติดตามและประเมินความคืบหน้าการรวมตัวทางเศรษฐกิจและการรวมกลุ่มในภาคการเงิน(2) ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Infrastructure Fund) ได้เริ่มปล่อยกู้โครงการแรกให้กับโครงสร้างพื้นฐานในประเทศอินโดนีเซียแล้ว และจะเร่งปล่อยกู้ในระยะถัดไปให้กับประเทศสมาชิกอื่นต่อไป ในขณะเดียวกัน กองทุนฯกำลังพิจารณาแนวทางลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืม การระดมทุนจากตลาดเงินและตลาดทุนรวมทั้งหาแนวทางร่วมมือกับภาคเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น (3) ความร่วมมือด้านศุลกากรได้เริ่มโครงการนำร่องการใช้ระบบพิธีการศุลกากรอาเซียน ณ จุดเดียว (ASEAN Single Window) ระหว่างสมาชิกอาเซียนที่มีความพร้อม 7 ประเทศระยะที่ 1 ซึ่งมีผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ และจะมีการดำเนินการระยะที่ 2 ที่เต็มรูปแบบในช่วงครึ่งแรกของปี 2014 (4) ความร่วมมือด้านภาษีอากร มีการหารือแนวทางการประสานนโยบาย และความโปร่งใสในด้านภาษีอากรระหว่างประเทศสมาชิก โดยได้เน้นให้สมาชิกอาเซียนที่ยังไม่จัดทำความตกลงว่าด้วยการเว้นการเก็บภาษีซ้อนดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วและให้หาแนวทางประสานกับกรอบความร่วมมืออื่นๆ เช่น OECD ในการพัฒนามาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลด้านภาษีอากรและการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ (5) ด้านการสนับสนุนการลงทุนในภูมิภาคที่ประชุมได้เห็นชอบให้ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพจัดงานสัมมนานักลงทุนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน (ASEAN Finance Minister’s Investor Seminar: AFMIS) ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าการรวมตัวของอาเซียน รวมทั้งนำเสนอจุดแข็งของอาเซียน เพื่อจูงใจให้นักลงทุนในภูมิภาคและทั่วโลกมองอาเซียนในรูปแบบภูมิภาคซึ่งจะเป็นโอกาสที่นักลงทุนในภูมิภาคและทั่วโลกจะได้พบปะและซักถามในประเด็นนโยบายโดยตรงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน

(6) ด้านการเงินภาคประชาชน ในการประชุมครั้งนี้ได้เห็นชอบให้สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์จัดการสัมมนาระหว่างประเทศในปี 2557 ในหัวข้อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับประชาชนในอาเซียนที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนของภาคธนาคารได้ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนฐานราก

4. ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการจัดประชุม AFMM ครั้งนี้ เมื่อมีการจัดทำระบบการเชื่อมโยงการดำเนินการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์อาเซียนภายใต้ ASEAN Trading Linkก็จะช่วยสร้างความเชื่อมโยงของระบบการโอนการชำระราคาและการรับฝากหลักทรัพย์เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นการสนับสนุนให้ตลาดหลักทรัพย์ไทยเติบโตขึ้นจากการลงทุนของนักลงทุนในอาเซียนที่จะมาลงทุนในหลักทรัพย์นอกจากนี้ การจัดทำบันทึกความเข้าใจในการกำหนดแนวทางการยอมรับมาตรฐานหน่วยลงทุนซึ่งกันและกันจะเปิดให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนในประเทศที่ร่วมมือกันสามารถนำหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่ได้รับการอนุญาตแล้วในประเทศของตนไปเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปในประเทศภาคีได้สะดวกและรวดเร็วขึ้นในขณะที่ กองทุนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน ก็จะเป็นส่วนช่วยส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศเพื่อนบ้านที่มีการเชื่อมต่อกับไทยทั้งทางด้านพลังงานและโทรคมนาคมเพื่อลดช่องว่างของระดับการพัฒนาเศรษฐกิจและเพื่อให้เกิดภาพที่สมบูรณ์ของการเชื่อมโยงระบบคมนาคมในภูมิภาค

นอกจากนี้ การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียนได้ให้ความสำคัญกับการเข้าถึงบริการด้านการเงินและการให้การศึกษาทางการเงินแก่ประชาชนฐานรากโดยเฉพาะที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์จะจัดการสัมมนาในหัวข้อการเพิ่มการเข้าถึงบริการภาคการธนาคารสำหรับประชาชนที่ด้อยโอกาส จะเป็นเวทีที่เปิดให้ ไทยซึ่งมีประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าวมีบทบาทช่วยแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับประเทศอาเซียนอื่นๆในขณะเดียวกัน ก็จะเป็นการช่วยให้แรงงานเมียนมาร์ที่มาทำงานในประเทศไทยมีการโอนเงินข้ามประเทศอย่างถูกกฎหมายและอยู่ในระบบมากขึ้น

5. ในช่วงการแถลงข่าวร่วมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงนักข่าวต่างประเทศต่อข้อซักถามเกี่ยวกับผลกระทบของการเมืองไทยต่อการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนว่าไทยได้มีการเตรียมความพร้อมในการรวมตัวภาคการเงินมานานแล้ว และมีแผนการดำเนินงานอย่างเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน ดังนั้น การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของไทยจึงไม่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมือง นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยก็ยังขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง

6. การประชุม AFMM ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ประเทศมาเลเซียในช่วงต้นเดือนเมษายน 2558

สำนักการเงินการคลังอาเซียน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. (02) 273-9020 ต่อ 3660

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version