กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--ธสน.
นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เปิดเผยถึงกรณีที่ไปชี้แจงต่อกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2549 สภาผู้แทนราษฎรว่า การให้เงินกู้แก่รัฐบาลพม่าจำนวน 4,000 ล้านบาทเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของ ธสน. ในฐานะธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเพื่อสนับสนุนผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยในต่างประเทศ เพื่อนำรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศเข้าสู่ประเทศตามอำนาจหน้าที่ที่ถูกต้องตามกฎหมายของ ธสน. ดังนั้นผู้ส่งออกในโครงการ อาจเป็นบริษัทไทย บริษัทร่วมทุนหรือบริษัทต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจส่งออกจากไทยไปยังพม่าก็ได้ แต่จะต้องเป็นการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทย
กรรมการผู้จัดการ ธสน. กล่าวว่า นอกจากนี้ เงินกู้ดังกล่าวยังเป็นการช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านของไทยด้วยเช่นเดียวกับการทำงานของกองทุนช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม ธสน. ได้พิจารณาให้เงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นกรณีพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรี โดยสามารถขอรับเงินชดเชยส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยและต้นทุนที่เกิดขึ้นได้ ธสน. จึงเสนอของบประมาณชดเชยจำนวน 50 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2549 โดยจำนวนเงินชดเชย 709 ล้านบาทนั้น เป็นการคาดการณ์ขั้นสูงที่ครอบคลุมระยะเวลาโครงการทั้งหมด 12 ปี ส่วนเงินชดเชยที่แท้จริงขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและต้นทุนการเงินที่เกิดขึ้นในแต่ละปี
เกี่ยวกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เป็นสถาบันการเงินของรัฐที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลัง จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2536 ซึ่งกำหนดขอบเขตอำนาจให้ธนาคารสามารถทำธุรกิจทุกประเภทที่ธนาคารพาณิชย์ทำได้ ยกเว้นเพียงการรับฝากเงินจากประชาชนทั่วไป โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้บริการทางการเงินเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยและนักลงทุนไทยในต่างประเทศ และสนับสนุนการได้มาซึ่งเงินตราต่างประเทศของไทยหรือประหยัดเงินตราต่างประเทศ
ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1142 - 6--จบ--