KIAT ลุยธุรกิจโรงไฟฟ้าเต็มสูบ คาดแล้วเสร็จปลายปี 58 ประเมินรับรู้รายได้ปีละ 250 ลบ. พร้อมมีแผนเข้าตลท.

จันทร์ ๒๑ เมษายน ๒๐๑๔ ๑๕:๓๖
เกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์” บิ๊กบอส “เกียรติธนาขนส่ง” เดินหน้าลุยธุรกิจใหม่ โรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 9.9 เมกกะวัตต์ ผ่านบริษัทลูก เกียรติธนากรีนเพาเวอร์ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม และลดความเสี่ยงการพึ่งพารายได้จากการขนส่งสินค้าด้านปิโตรเคมีเพียงอย่างเดียว คาดแล้วเสร็จปลายปี 2558 รับรู้รายได้ปีละ 250 ล้านบาท พร้อมมีแผนนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หวังระดมทุนนำเงินไปขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่ม ชี้มีหลายบริษัทรุมจีบขอถือหุ้นในธุรกิจโรงไฟฟ้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาไม่ปิดกั้นพันธมิตรแต่ขอเป็นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และกุมอำนาจบริหาร

นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ขนาด 9.9 เมกะวัตต์ ” โดยใช้ ต้นปาล์ม ต้นยางพารา และผลิตภัณฑ์การเกษตรที่เหลือใช้ในพื้นที่ภาคใต้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ภายใต้บริษัทลูก “บริษัทเกียรติธนากรีนเพาเวอร์” ซึ่งใช้เงินลงทุนประมาณ 750 ล้านบาท ทั้งนี้เม็ดเงินลงทุนมาจากเงินทุนหมุนเวียน และเงินกู้สถาบันการเงิน ขณะนี้โครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าตามลำดับโดยได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงในการจัดซื้อที่ดินขนาด 40 ไร่ ณ อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งได้ลงนามจัดหาเครื่องจักรเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าชีวมวล มูลค่ารวมประมาณ 600 กว่าล้านบาท

ทั้งนี้โรงไฟฟ้าดังกล่าวจะแล้วเสร็จราวเดือนธันวาคม 2558 และเริ่มจำหน่ายไฟให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ในเดือนมกราคม 2559 และรับรู้รายได้ทันที ซึ่งได้ส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าจำนวน 0.30 บาทต่อหน่วย คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 250 ล้านบาทต่อปี และผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) อยู่ที่กว่าร้อยละ 20 โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลนี้คาดว่าจะมีกำไรอยู่ที่ร้อยละ 35 อย่างไรก็ตามโครงการได้อยู่ระหว่างการจัดทำประชาคมพิจารณ์ในเดือนเมษายน คาดว่าจะได้รับความร่วมมือที่ดีจากชุมชนเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีโรงไฟฟ้าชีวมวลหลายแห่งที่ตั้งอยู่

“โครงการดังกล่าวได้ศึกษาอย่างรอบคอบได้เชื่อว่าจะเป็นการกระจายความเสี่ยงในเรื่องของรายได้บริษัทฯ ที่พึ่งพาเพียงธุรกิจขนส่งปิโตรเคมีที่เป็นหลักทำให้มีความเสี่ยงสูงและธุรกิจโรงไฟฟ้ามีความเสี่ยงต่ำและมีรายได้ที่แน่นอนต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเป็นธุรกิจที่มีกำไรในระดับสูง คาดว่ากำไรจะสูงถึง 35% และโรงไฟฟ้าจะแล้วเสร็จในปลายปี 58 เริ่มรับรู้รายได้ปี 59 ฝ่ายบริหารต้องมีการปรับกลยุทธ์การบริหาร เรามีธุรกิจที่เชี่ยวชาญด้านการขนส่งปิโตรเคมีแต่มีความเสี่ยงโดยรวมจากภาพรวมเศรษฐกิจ การเมือง เราจึงต้องกระจายความเสี่ยงและศึกษาเป็นอย่างดีในธุรกิจโรงไฟฟ้าว่ามีความเสี่ยงต่ำจึงก่อตั้งบริษัทฯลูกเพื่อเป็นธุรกิจที่จะสร้างรายได้ใหม่ หากแล้วเสร็จจะสร้างรายได้ปีละ 250 ล้านบาท” นายเกียรติชัย กล่าว

นายเกียรติชัย กล่าวต่อว่า KIAT ได้จัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัท เกียรติธนากรีนเพาเวอร์ จำกัด เมื่อปลายปี 2556 เพื่อประกอบธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 5,000,000 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท จำนวนหุ้น 1,000,000 หุ้น ทั้งนี้มีแผนจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 200 ล้านบาท ในปี 2557 และอยู่ระหว่างการศึกษานำบริษัทฯลูก เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อใช้เป็นช่องทางในการระดมทุนเพื่อนำเงินมาคืนหนี้สถาบันการเงินจากการลงทุนโรงไฟฟ้าแห่งแรก รวมทั้งประเมินโอกาสในการลงทุนเพิ่มในธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งจะเห็นความชัดเจนในช่วงที่บริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้า ทั้งนี้การลงทุนเพิ่ม ในธุรกิจโรงไฟฟ้าต่อเนื่องเพราะเป็นธุรกิจที่มีรายได้แน่นอน และมีการปรับเพิ่มขึ้นได้ตามค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ถือเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

ปัจจุบันโครงสร้างการถือหุ้น บริษัท เกียรติธนากรีนเพาเวอร์ จำกัด ประกอบด้วย KIAT ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากบริษัทฯที่ทำธุรกิจพลังงานทดแทน ขอร่วมเป็นพันธมิตรและร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าแห่งแรก ทั้งนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลทางการเงินระหว่างกัน แต่ KIAT ยังคงรักษาสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่และเป็นผู้บริหารโรงไฟฟ้า

“เกียรติธนากรีนเพาเวอร์ เป็นบริษัทลูกที่ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้า เป็นบริษัทลูกที่มีแผนระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย หากโรงไฟฟ้าแห่งแรกเริ่มรับรู้รายได้ช่วงปี 2557 เชื่อว่าจะมีความชัดเจนในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเราไม่ปิดกันพันธมิตรที่สนใจร่วมถือหุ้นในธุรกิจโรงไฟฟ้า เพราะแห่งแรกก็มีบริษัทฯที่ประกอบธุรกิจพลังงานทดแทนเข้ามาคุยแล้ว แต่เราต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เท่านั้นเพื่อคงอำนาจการบริหาร เพราะเราคงไม่หยุดแค่โรงไฟฟ้าแห่งแรกต้องมีแห่งที่ 2 ที่ 3 ตามมาแน่นอน ”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version