ภาพคาแรคเตอร์ ฝ่ายไทย ในตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี

จันทร์ ๒๑ เมษายน ๒๐๑๔ ๑๖:๔๙
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี

พร้อมมิตร โปรดักชั่น และ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล สู่บทสรุปของอภิมหากาพย์ภาพยนตร์แอ็คชั่นอิงประวัติศาสตร์เรื่องยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งสยามประเทศจาก “องค์ประกันหงสา” ปฐมบทของตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สู่ “ยุทธหัตถี” มหาศึกแห่งประวัติศาสตร์ เนรมิตโปรดักชั่นงานสร้างสุดอลังการถ่ายทอดตำนานการศึกสงครามกู้ชาติและปกป้องผืนแผ่นดินในประวัติศาสตร์ชาติไทยของ “องค์ดำ-สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” กษัตริย์นักรบที่คนไทยเคารพรักและศรัทธามากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล

ในปีพ.ศ.2129 พระเจ้านันทบุเรงทรงแค้นเคืองที่ต้องปราชั­ยต่อสมเด็จพระนเรศฯอย่างย่อยยับ ทั้งต้องเสียไพร่พลและพระสิริโฉม จึงระบายความแค้นนั้นไปที่องค์พระสุพรรณกั­ลยา เมื่อสมเด็จพระมหาธรรมราชาพระราชบิดาทราบค­วามก็ให้โทมนัสด้วยสำนึกว่าชะตากรรมของพระ­ราชธิดาและแผ่นดินอยุธยาที่ถูกกระทำการย่ำ­ยีก็ด้วยเพราะพระองค์ทรงแปรพักตร์ไปเข้าข้­างศัตรู จนตรอมพระทัยเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศฯจึงเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติค­รองกรุงศรีอยุธยาสืบต่อจากพระราชบิดา

ข่าวการผลัดแผ่นดินของอยุธยารู้ไปถึงพระเจ้านันทบุเรง พระองค์สำคัญว่าราชอาณาจักรสยามจะไม่เป็นป­กติสุขเป็นช่องชวนชิงเชิงจึงโปรดให้มังสาม­เกียดอุปราชเจ้าวังหน้ากรีฑาทัพไปตีกรุงศรีอยุธยาอีกคำรบ ข้างสมเด็จพระนเรศฯทรงโปรดให้พระราชมนูแต่­งพลเป็นทัพหน้าขึ้นไปดูกำลังข้าศึกถึงหนอง­สาหร่าย ทัพหน้าพระราชมนูปะทะเข้ากับทัพพม่าถึงขั้­นตะลุมบอน แต่กำลังข้างพระราชมนูน้อยกว่าจึงแตกพ่ายถ­อยลงมาเป็นอลหม่าน สมเด็จพระนเรศฯทราบความจึงออกอุบายให้ทัพข้าศึกไล่เตลิดลงมาจนเสียกระบวนแล้วจึงทรงนำกำลังออกยอทัพข้าศึก ครั้งนั้นช้างทรงของสมเด็จพระนเรศฯ นามเจ้าพระยาไชยานุภาพ และช้างทรงของสมเด็จพระเอกาทศรถคือเจ้าพระ­ยาปราบไตรจักรต่างตกน้ำมัน วิ่งร่าเบกพลฝ่าเข้าไปในทัพพม่ารามัญกลางว­งล้อมข้าศึกและหยุดอยู่หน้าช้างพระมหาอุปร­าชา สมเด็จพระนเรศฯ จึงประกาศท้าพระมหาอุปราชแ­ห่งหงสาให้ออกกระทำยุทธหัตถีเป็นพระเกียรติยศแก่แผ่นดิน ด้วยขัตติยมานะพระมหาอุปราชาก็ไสพระคชาธาร­ออกทำคชยุทธด้วยสมเด็จพระนเรศฯ ขณะที่มังจาปะโร พระพี่เลี้ยงองค์สมเด็จพระมหาอุปราชได้ออก­ทำยุทธหัตถีกับสมเด็จพระเอกาทศรถสัประยุทธ์กันเป็นสองคู่ สู่มหาศึกคชยุทธ์ที่มีแผ่นดินเป็นเดิมพัน

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี พร้อมประจักษ์ทุกสายตาผองไทยทั้งปฐพี 29 พฤษภาคม 2557 นี้

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พันโทวันชนะ สวัสดี)

“ข้าจะสู้ศึกหงสาวดี จนกว่าอริราชศัตรูจะพ่ายสิ้น ข้าจะไม่ยอมให้พม่ารามัญคืนความเป็นใหญ่เหนืออโยธยาอีกเป็นอันขาด”

สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้แสดงพระปรีชาสามารถจนเป็นที่ประจักษ์มากที่สุดในศึกครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นทักษะความสามารถการคิดอ่านเป็นเลิศในกลเกมวางแผนการรบ รวมไปถึงอัจฉริยภาพและความเด็ดเดี่ยวในฐานะผู้นำที่ปกครองบริหารแผ่นดินให้คงความเป็นไทยเสมอมา ในขณะเดียวกันก็จะได้เห็นสายใยความผูกพันของพระนเรศวรกับสหายศึกที่เติบโตมาด้วยกันอย่างพระราชมนู และความรักที่มีต่อพระมเหสีอย่างมณีจันทร์

กล่าวได้ว่าตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษกับการถ่ายทอดชีวิตและตัวตนของกษัตริย์นักรบไทยอันเป็นที่รักอย่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราช คงยากที่จะหานักแสดงคนใดที่จะลบภาพของ ผู้พันเบิร์ด - พันโทวันชนะ สวัสดี ไปได้ ผู้ทำหน้าที่ถ่ายทอดการแสดงที่สมบทบาท และการสื่อให้ทุกคนได้รู้จักอีกแง่มุมหนึ่งของสมเด็จพระนเรศวรได้อย่างสนิทใจ

มณีจันทร์ (ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ)

สตรีผู้เป็นดั่งดวงแก้วของพระนเรศวร ผู้อยู่เคียงข้างและคอยดูแลพระองค์เสมอมา แม้กระทั่งในยามสุขและยามศึก จนเรียกได้ว่าเป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่มีอิทธิพลต่อพระราชดำริของพระนเรศวรมากกว่าผู้ใด ภายหลังการขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มณีจันทร์ ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นพระมเหสี

แอฟ - ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ถ่ายทอดความเป็นพระมเหสีของกษัตริย์ผู้หาญกล้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งกิริยาอันอ่อนหวานและเต็มไปด้วยความงดงามเสมือนหนึ่งเจ้านางชั้นสูงที่มีชีวิตอยู่จริงในครั้งนั้น

พระราชมนู หรือ บุญทิ้ง (นพชัย ชัยนาม)

“นับแต่ชาตินี้และทุกชาติไป ไอ้ทิ้งจะขอเกิดใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร จะพลีกายถวายตัวเป็นข้าใต้เบื้องพระยุคลบาททุกชาติภพ”

ชะตากรรมที่ดำเนินต่อของพระสหายคู่ใจที่ร่วมกรำศึกใหญ่น้อยเคียงบ่าเคียงไหล่กับสมเด็จพระนเรศวรมาทั้งชีวิต หลังจากพลาดท่าเสียทีถูกพม่าข้าศึกจับไปเป็นเชลยในภาคที่แล้ว ก่อนจะกลับมาออกรบในฐานะทหารเอกได้อีกครั้ง สะท้อนถึงการแสดงออกของความจงรักภักดี อันเต็มไปด้วยความเสียสละและทุ่มเทชีวิตให้กับพระนเรศวรอย่างหาผู้ใดเทียบได้

ปีเตอร์ - นพชัย ชัยนาม กลับมาพร้อมกับการแสดงอันลุ่มลึก แต่เต็มไปด้วยพลัง ทั้งฉากรบและฉากอารมณ์ ซึ่งถือเป็นตัวละครสำคัญที่สร้างเสน่ห์ให้กับภาพยนตร์และทำให้ผู้ชมหลงรักมากที่สุดตัวละครหนึ่งทีเดียว

เลอขิ่น (ทราย เจริญปุระ)

เธอทุ่มเทชีวิตและหัวใจให้กับการรบดุจดั่งชายอกสามศอก แม้กายจะเป็นหญิง แต่เลือดนักสู้ของ เลอขิ่น หาได้ยิ่งหย่อนไปกว่าผู้ใดในสนามรบ ทั้งความภักดีที่มีต่อสมเด็จพระนเรศวร และความรักที่มีต่อพระราชมนูที่ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ถึงขนาดลักลอบเข้าไปยังค่ายหงสาเพื่อสืบหาว่าพระราชมนูจะเป็นตายร้ายดีเยี่ยงใด

อีกหนึ่งตัวละครที่สร้างสีสันให้กับภาพยนตร์ จากการแสดงแบบทุ่มสุดตัวของนักแสดงหญิงมากฝีมืออย่าง ทราย เจริญปุระ ทั้งฉากแอคชั่นท่ามกลางศึกสงคราม จับดาบฟาดฟันศัตรูยิงธนูขี่ม้า รวมไปถึงฉากที่ต้องถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกด้านความรักอย่างเข้มข้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version