นายปริญญา เพ็งสมบัติ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ให้ความสำคัญด้านการส่งเสริมและพัฒนากระบวนการผลิตของสมาชิกสหกรณ์ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ตลอดจนปลายน้ำ สู่การผลิตพืชผักปลอดภัยและได้มาตรฐานอย่างครบวงจร โดยเริ่มตั้งแต่การส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย ตามระบบ GAP แล้วส่งเข้ามายัง Packing house ของสหกรณ์ฯ เพื่อทำการรวบรวม คัดแยกทำความสะอาดและบรรจุหีบห่ออย่างถูกสุขลักษณะ ตามมาตรฐาน GMP ตลอดจนกระบวนการกระจายสินค้าสู่มือผู้บริโภคผ่านเครือข่ายสหกรณ์ รวมทั้งขยายสู่ตลาด Modern Trade และตลาดขายส่งต่างๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายต่อยอดการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต สร้างรายได้ที่แน่นอนแก่สมาชิกสหกรณ์ เสริมสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนด้วยการพัฒนาอาชีพด้านการผลิตพืชผักปลอดภัยด้วยการทำ Contract farming กับสมาชิกและสหกรณ์เครือข่ายในจังหวัดน่าน
ด้านนายวิโรจน์ ใบยา ประธานสหกรณ์ฯ กล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินท่าวังผา จำกัด เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2525 ดำเนินธุรกิจรวบรวมพืชผัก ของสมาชิกมาอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน โดยยึดมั่นอุดมการณ์ หลักการ และวิธีการสหกรณ์ในการบริหารจัดการ รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของสหกรณ์ สำหรับในช่วงเดือนตุลาคมปี 2556 ที่ผ่านมา จนถึง เดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 รวมเป็นระยะเวลา 6 เดือน สหกรณ์ฯ มีปริมาณการรวบรวมพืชผักจากสมาชิกกว่า 1,088,453 กิโลกรัม รวมมูลค่าทั้งสิ้น 13,397,701 บาท พืชผักที่รวบรวม ได้แก่ พริกสด ฟักทอง กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ปลี มะเขือยาว มะเขือเทศ และฟักเขียว ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างโรงคัดแยกบรรจุหีบห่อผักผลไม้ (Packing house) แห่งนี้ขึ้น จะเป็นการยกระดับการจัดการธุรกิจรวบรวมพืชผักปลอดภัยและการผลิตอย่างครบวงจร และพร้อมก้าวสู่ตลาด Model Trade ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก ห้างเทสโก้โลตัส บริษัทพรานเฟรช และบริษัทศรีสมหมาย รวมทั้งตลาดขายส่งในจังหวัดน่านและจังหวัดใกล้เคียง โดยมีเป้าหมายคือ “ผลิตพืชผักน่านปลอดภัยสู่ผู้บริโภค” อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดน่าน กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตรและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน
ทั้งนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ และสหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินท่าวังผา จำกัด จังหวัดน่าน มุ่งมั่นที่พัฒนาอาชีพด้านการผลิตพืชผลปลอดภัยและได้มาตรฐานอย่างครบวงจร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพแก่ผู้บริโภค และยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกสหกรณ์ให้ดีขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน