ก.ล.ต. เตือนผู้ลงทุนระมัดระวังการใช้ข้อมูลในการตัดสินใจลงทุน

พฤหัส ๒๔ เมษายน ๒๐๑๔ ๑๖:๕๘
ก.ล.ต. เตือนผู้ลงทุนให้ระมัดระวังในการตัดสินใจลงทุนกรณีมีข่าวเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนและการคาดการณ์ ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน

นายชาลี จันทนยิ่งยง รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ที่ผ่านมามีการให้ข่าวเกี่ยวกับการคาดการณ์ช่วงเวลาที่ ก.ล.ต. จะอนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์ หรืออนุมัติให้จัดตั้งกองทุน รวมทั้งการคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนอันเนื่องมาจากการจัดตั้งกองทุนนั้น ขอชี้แจงว่าการอนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์หรืออนุมัติการจัดตั้งกองทุนใดก็ตาม จะมีความแน่นอน เมื่อ ก.ล.ต. มีหนังสือแจ้งผู้ขออนุญาตหรือขออนุมัติอย่างเป็นทางการแล้วเท่านั้น ซึ่งผู้ลงทุนสามารถติดตามข้อมูลดังกล่าวได้จากเว็บไซต์ ก.ล.ต. www.sec.or.th ภายใต้หัวข้อ “ข้อมูลประจำสัปดาห์” สำหรับการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ และภายใต้หัวข้อ “ระบบเผยแพร่ข้อมูลหนังสือชี้ชวนและรายงานกองทุนรวม (MRAP)” สำหรับการจัดตั้งกองทุน

ทั้งนี้ กรณีที่บริษัทจดทะเบียนจำหน่ายทรัพย์สินเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อาจมีผลกระทบต่อโครงสร้างรายได้ และภาระผูกพันในอนาคตของบริษัท รวมทั้งอาจมีเงื่อนไขตามสัญญาบางประการที่มีประเด็นตามมาตรฐานการบัญชีว่าบริษัทจดทะเบียนจะสามารถบันทึกรายการดังกล่าวเป็นการขายขาด (true sale) ได้หรือไม่ หรือต้องบันทึกเป็นการกู้ยืมเงิน ซึ่งการบันทึกบัญชีในแต่ละลักษณะจะมีผลแตกต่างกันอย่างมากต่อผลกำไรขาดทุนหรือภาระหนี้สินของบริษัทในงวดบัญชีที่เกิดรายการ ซึ่งในระหว่างการยื่นขอจัดตั้งกองทุนอาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ รายละเอียดต่างๆ ได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนจะทราบผลกระทบที่แท้จริงต่อเมื่อบริษัทจดทะเบียนได้ข้อยุติในเรื่องการจัดโครงสร้างที่เหมาะสมแล้ว หรือเมื่อ ก.ล.ต. ได้อนุมัติคำขอจัดตั้งแล้ว

ก.ล.ต. จึงขอเตือนผู้ลงทุนให้ใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนในกรณีที่มีข่าวเรื่องการจัดตั้งกองทุนและการคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน โดยที่ ก.ล.ต. ยังไม่ได้อนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์หรืออนุมัติให้จัดตั้งกองทุน และยังไม่มีข้อยุติว่า การจำหน่ายทรัพย์สินให้แก่กองทุนหรือกองทรัสต์จะส่งผลต่องบการเงินของบริษัทจดทะเบียนอย่างไร เนื่องจากหากบริษัทไม่สามารถบันทึกรายการจำหน่ายทรัพย์สินเป็น true sale ได้ นอกจากไม่มีการบันทึกกำไรตามที่เป็นข่าวแล้ว ยังส่งผลให้บริษัทมีหนี้สินสูงขึ้นจากการทำรายการดังกล่าว”

นายชาลี กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับนักวิเคราะห์การลงทุนในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพ ควรระมัดระวังและรอบคอบในการให้ความเห็นที่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุน โดยควรให้ความเห็นเมื่อมีข้อมูลที่ชัดเจนแล้ว หากยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ควรให้ความเห็นรอบด้านทั้งเชิงบวกและลบ เพื่อไม่ให้ผู้ลงทุนมีความคาดหวังสูงเกินจริง ในขณะเดียวกันบริษัทจดทะเบียนหรือผู้บริหารก็ควรจะให้ข่าวต่อเมื่อมีความชัดเจนแล้วว่าได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. และข้อยุติเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีแล้ว รวมทั้งหลีกเลี่ยงการให้ข่าวว่าบริษัทจะมีกำไรทั้งที่ยังไม่มีความชัดเจนในการบันทึกบัญชี เพราะอาจมีผลต่อราคาหลักทรัพย์ และอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์ได้”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ