นายเพชรัตน์ เตชวัชรา ประธานมูลนิธิส่งเสริมอาชีพคนตาบอด กล่าวว่า “มูลนิธิส่งเสริมอาชีพคนตาบอดดำเนินงานในด้านการช่วยเหลือคนตาบอดให้ได้รับการฟื้นฟูทางการแพทย์ ช่วยเหลือคนตาบอดให้ได้รับการศึกษาและให้ได้รับการฝึกอาชีพ และมีการผลักดันด้านการนวดของคนตาบอดให้ก้าวสู่เวทีโลก โดยได้รับเลือกจากสหภาพคนตาบอดโลกเอเชียแปซิฟิก (World Blind Union Asia Pacific) ให้เป็นเจ้าภาพจัดสัมมนาด้านการนวดของสหภาพคนตาบอดโลก ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 12 (The 12th World Blind Union Asia-Pacific massage seminar) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมบทบาทของคนตาบอดไทยให้ได้รับการสนับสนุนและพัฒนาด้านอาชีพการนวดอย่างยั่งยืน เผยแพร่การนวดไทยไปสู่สากลและเพื่อแลกเปลี่ยนและเรียนรู้เทคนิคการนวดกับนานาชาติด้วยกัน ซึ่งนับเป็นโอกาสดีที่คนตาบอดในระดับผู้เชี่ยวชาญด้านการนวดจะมาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน”
นายเพชรัตน์ เตชวัชรา กล่าวต่ออีกว่า “สำหรับกิจกรรมที่จะจัดขึ้นภายในงาน ประกอบด้วย การสัมมนาในหัวข้อต่างๆ โดยมีคนตาบอดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้าร่วมงานกว่า 300 คน กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนตาบอด เช่น นิทรรศการต่างๆ เพื่อแสดงความสามารถ และศักยภาพของหมอนวดผู้พิการทางสายตา และแสดงผลการวิจัยด้านการนวด ซึ่งจากการสัมมนาในงานนี้คาดหวังที่จะให้นานาชาติเข้าใจ ยอมรับทักษะการนวดของตาบอดไทย และได้ทักษะการนวดของนานาชาติมาปรับใช้ในวิชาชีพนวดแผนไทย นอกจากนี้คนตาบอดไทยจะได้รับการสนับสนุนและพัฒนาด้านอาชีพการนวดอย่างยั่งยืนต่อไป”
ด้าน นางจิตรา ศิริสมบูรณ์ลาภ ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลไทยให้การสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมครั้งนี้ ซึ่งการเป็นเจ้าภาพจัดสัมมนาด้านการนวดของสหภาพคนตาบอดโลก ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 12 จะเป็นการผลักดันงานด้านการนวดของคนตาบอดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและทัดเทียมกับนานาชาติ ซึ่งนอกจากในประเทศไทยแล้วจะช่วยสร้างการยอมรับในกลุ่มคนตาบอดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วยกัน และเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ รวมถึงการให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับของประชาคมโลกในด้านคนพิการและผู้ด้อยโอกาส ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดความเป็นอารยะของสังคมมนุษย์ โดยสอดรับกับนโยบายและแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ฉบับที่ 4 ซึ่งมุ่งเน้นผลักดันวิสัยทัศน์ “คนพิการดำรงชีวิตอิสระร่วมกับทุกคนอย่างมีความสุข สามารถเข้าถึงสิทธิอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน” การพัฒนาศักยภาพคนพิการจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน โดยการจัดสัมมนาครั้งนี้ คนตาบอดไทยจะได้รับการสนับสนุนและพัฒนาด้านอาชีพการนวดอย่างยั่งยืน อันจะนำไปสู่การมีอาชีพ เพราะงานที่มีคุณค่าและสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ผู้ทำย่อมจะส่งผลให้สถานะความเป็นอยู่ของตนดีขึ้น และขอให้ทุกภาคส่วนเข้าใจถึงความสำคัญของการมีอาชีพของคนพิการ ยอมรับในความพิการ ยอมรับในความเท่าเทียม พลังแห่งการยอมรับในกันและกันในสังคมนี้เอง จะก่อให้เกิดโอกาสในชีวิตของผู้พิการซึ่งจะส่งผลเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต”
นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานกรรมการบริหารสํานักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า “การนวดไทยถือเป็นวิธีการบำบัดโรควิธีการหนึ่งตามแนวทางการแพทย์แผนไทย โดยผู้ที่ประกอบการนวดแผนไทยจะต้องได้รับอนุญาตขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (2542) ประกาศเพิ่มเติมสาขาการแพทย์แผนไทย (2544) ปัจจุบันมีผู้เข้ารับการสอบประเมินความรู้ความสามารถเพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นแพทย์แผนไทยจำนวนมาก โดยในปี 2555 มีผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขึ้นเป็นแพทย์แผนไทยสาขาต่างๆ ได้แก่ ประเภทเวชกรรมไทย 456 คน, ประเภทเภสัชกรรมไทย 484 คน, ประเภทผดุงครรภ์ไทย 287 คน และประเภทการนวดไทย 541 คน การประกอบอาชีพของคนตาบอดส่วนใหญ่ในประเทศไทยนั้น มีการประกอบอาชีพในสถานประกอบการ การค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล เล่นดนตรี และการนวดแผนไทย ซึ่งการนวดแผนไทยนับเป็นอาชีพที่อยู่คู่กับคนตาบอดมาช้านาน ในปัจจุบันมีหมอนวดที่มีความบกพร่องทางการเห็นที่ผ่านการสอบเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นหมอนวดแผนไทยแล้วจำนวน 34 คน การได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยสาขาการนวดไทยช่วยขยายสิทธิการประกอบอาชีพการนวดแผนไทยของคนตาบอด โดยผู้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแพทย์แผนไทยสาขาการนวดไทยสามารถประกอบการนวดเพื่อสุขภาพและการรักษาได้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องการเพิ่มประเภทการนวดไทยในสาขาการแพทย์แผนไทย ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ จะเป็นเวทีสำคัญที่กระตุ้นและส่งเสริมให้คนตาบอดไทยได้พัฒนาความรู้และทักษะ และก้าวสู่เวทีนานาชาติในอนาคตอันใกล้”
ทั้งนี้ จึงขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมงานสัมมนาด้านการนวดของสหภาพคนตาบอดโลก ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 12 ในระหว่างวันที่ 5 – 7 พฤษภาคม 2557 ณ โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอรีน กรุงเทพฯ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายเลขานุการ โทร 087 343 1597 หรือ อีเมล์ [email protected] เว็บไซต์ www.wbuapseminar2014.org