เปิดตัวออนไลน์ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ www.THAIshope.com อีคอมเมิร์ซสัญชาติไทย 100%

ศุกร์ ๒๕ เมษายน ๒๐๑๔ ๑๑:๕๐
โชว์ศักยภาพกวาดแบรนด์ดังทั้งไทย-เทศ กว่า 100 แบรนด์ มาร่วมเปิดขายบนเว็บตั้งเป้ายอดขาย 150 ล้านบาท ในปีแรก พร้อมเผย Business Model รุกตลาดไปไกลถึงอาเซียน

บริษัท ไทยช้อป อีคอมเมิร์ซ จำกัด เปิดตัวเว็บไซต์ www.THAIshope.com ชูจุดขายห้างสรรพสินค้าออนไลน์รายแรกของไทยที่มีสินค้าให้เลือกมากกว่า 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์รวมกว่า 1,000 รายการ จากแบรนด์ทั้งไทย เทศ อาทิ กระเป๋าแบรนด์เนมแท้ Chanel. Gucci, Prada, Balenciaga, Fendi, Saint Laurent, Mulberry, Michael Kors, Givenchy, Tod’s, Longchamp อีกทั้งดีไซเนอร์แบรนด์ไทยรุ่นใหม่ Ruchitta, Rainbo, Nisa& Friends, Wonder Wall, แบรนด์เครื่องกีฬาดัง อาทิ Victor, Lining, Apacs, Aeroplane และที่สำคัญได้รับการสนับสนุนจากบริษัท โซนี่ ไทย จำกัด, กลุ่มบริษัท ไอซีซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) , บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน), บริษัท เป๊ปโป้ แฟชั่น กรุ๊ป จำกัด เป็นต้น คาดปีแรกมีสมาชิก 100,000 ราย ตั้งเป้ากวาดรายได้ 150 ล้านบาท พร้อมประกาศ!!! เปิดแผนรุกตลาดอีคอมเมิร์ซระดับอาเซียน ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม ภายในสิ้นปี มุ่งหวังให้ไทยเป็น Hub Online E-Commerce ที่ส่งออกสินค้าไทย ไปตีตลาดอาเซียน

นายสมเกียรติ ไชยศุภรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยช้อป อีคอมเมิร์ซ จำกัด ผู้ก่อตั้ง www.THAIshope.com ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ถือหุ้นโดยคนไทย 100 เปอร์เซ็นต์ กล่าวถึงการเปิดตัว www.THAIshope.com ว่า “บริษัท ไทยช้อป อีคอมเมิร์ซ จำกัด ก่อตั้งเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2555 ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของธนาคารชั้นนำในธุรกิจบัตรเครดิต และอีกกว่า 13 ปี ในวงการเทคโนโลยี และอีคอมเมิร์ซ ทั้งในประเทศไทยและสิงคโปร์ ทำให้เข้าใจธุรกิจทั้ง 2 ประเภทอย่างลึกซึ้ง และนำจุดเด่นของทั้ง 2 ธุรกิจ มาพัฒนารวมกันเป็น www.THAIshope.com ซึ่งเป็น Online Shopping ที่เป็นของคนไทย 100% และใช้ทีมงานคนไทยทั้งหมดในการพัฒนาวางระบบ มีการวางแผนการตลาดที่ครบวงจร และมุ่งไปที่การเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า ซึ่งเป็นสินค้าจากแบรนด์พาร์ทเนอร์ทั้งต่างประเทศและในประเทศไทย โดยใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซ เพื่อขยายธุรกิจไปทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558”

www.THAIshope.com เป็นเว็บไซต์ห้างสรรพสินค้าออนไลน์รายแรกของไทยที่มีคนไทยหุ้น 100 เปอร์เซ็นต์ โดยในเว็บมีแบรนด์พาร์ทเนอร์ที่นำสินค้ามาร่วมขายกว่า 100 ราย พร้อมนำเสนอสินค้ามากมายใน 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ (verticals) อันประกอบด้วย 1. กลุ่มสินค้า Luxury ที่บริษัทเป็นผู้นำเข้ากระเป๋าและเครื่องประดับ แบรนด์ดังโดยตรงจากยุโรป สินค้าทุกชิ้นเป็นสินค้าที่ผลิตจากแบรนด์ มีใบรับประกันของแท้ทุกชิ้น 2. กลุ่มสินค้า Designer ที่เป็นสินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับ เสื้อผ้า กระเป๋า ที่เป็นผลงานของเหล่าดีไซเนอร์คนไทย เป็นสินค้าที่ ทันสมัยในราคาเหมาะสม 3. กลุ่มสินค้า Sport นับเป็นครั้งแรกในวงการเครื่องกีฬา ที่ไทยช้อป ได้เปิดช่องทางการจัดจำหน่ายบนโลก ออนไลน์ ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าคุณภาพอย่างง่ายเพียงแค่คลิ๊กเดียว 4. กลุ่มสินค้า Beauty จะเป็นกลุ่มสินค้าเครื่องสำอางในระดับกลางถึงสูง โดยเป็นสินค้าแบรนด์ดังทั้งไทยและต่างประเทศ 5. กลุ่ม Mom & Junior ซึ่งเป็นสินค้าที่เลือกสรรร่วมกับผู้ผลิตและนำเข้าแบรนด์ดังมากมาย และกลุ่มสุดท้าย คือ 6 คือกลุ่มเครื่องไฟฟ้า เครื่องเสียง โทรศัพท์มือถือ แท็ปเล็ต โดยได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมากมาย และทั้งนี้ จะเปิดตัว กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ 7 โดยเป็นสินค้าแบรนด์ดังในเครือของ ICC International จำกัด ( มหาชน) ในช่วงต้น เดือน มิถุนายน และหลังจากนั้นจะตามด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ ที่ 8 คือ OTOP premium ที่จะเน้นไปที่สินค้า แฟชั่นระดับ High end ภายใต้ความร่วมมือกับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

“โมเดลการทำธุรกิจของไทยช้อป คือ การเป็นออนไลน์ช้อปปิ้งของคนไทยรายแรกที่ใช้โมเดลการผสมผสานของ Flash Sale และ E-Commerce เข้าด้วยกัน ซึ่ง Flash Sale เปรียบเสมือนการช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า ในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ โดยไทยช้อปจะร่วมมือกับแบรนด์พาร์ทเนอร์จัดสินค้ามาเฉพาะในจำนวนจำกัด นำเสนอสิทธิพิเศษต่างๆไม่ว่าจะเป็นส่วนลดราคาพิเศษ ของสมนาคุณ การผ่อนชำระ อื่นๆ ให้สมาชิกได้เลือกช้อปอย่างจุใจ โดย Flash Sale จะจัดขึ้นทุกๆ สัปดาห์ หรือช่วงโอกาสพิเศษสำคัญๆ โดยการซื้อขายทั้งหมดทำธุรกรรมผ่านทาง online ก่อให้เกิดเป็นรูปแบบธุรกิจแบบ E-commerce และจุดเด่นสำคัญของ www.THAIshope.com คือ ลูกค้าที่ซื้อสินค้าทุกชิ้นที่ไทยช้อปจะได้รับการบริการที่ดีเยี่ยมโดยคำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งสินค้าทุกชิ้นรับประกัน คือ เป็นของใหม่ของแท้ 100% หากชำรุดสามารถเปลี่ยนคืนได้ภายใน 14 วัน บริการจัดส่งฟรีทั่วประเทศ และได้ร่วมมือกับธนาคาร และสถาบันการเงินให้ผู้ถือบัตรเครดิตทุกธนาคารสามารถเลือกผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 10 เดือนโดยไม่คิดดอกเบี้ย” นายสมเกียรติกล่าว

สำหรับช่องทางการเข้าถึงไทยช้อปนั้น ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ 4 ช่องทาง ได้แก่ 1) www.THAIshope.com , 2) www.facebook.com/Thaishope , 3) ช่องทาง line ผ่านทาง ID : thaishopeofficial และ 4) Thaishope Space ซึ่งนอกการเปิดขายบนโลกออนไลน์แล้ว บจ.ไทยช้อป อีคอมเมิร์ซ ยังได้ทำการตลาดแบบออฟไลน์ด้วย โดยมีการเปิดช้อปเพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการเห็นสินค้าก่อน สามารถมาเลือกช้อปปิ้งได้ โดยช้อปดังกล่าวเปิดอยู่ที่ชั้น 11 อาคารอิตัลไทย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ กทม. โดยช้อปนี้เป็นแค่เพียงช้อปแรกเท่านั้น ทางบริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดช้อปอีก 3-4 แห่ง หัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ โดยการทำ offline Sale จะมีขึ้นตามอาคารสำนักงานต่างๆ โดยที่กำลังจะร่วมมือกับ บัตรเครดิต KTCจัด Thaishope Pop Up Sale ที่ KTC Touch สุขุมวิท 33 ระหว่างวันที่ 28-30 เมษายน 2557

ในส่วนแผนการทำการตลาดในอนาคต ทางนายสมเกียรติ วางเป้าหมายไว้ว่า “เราตั้งเป้าสมาชิกที่จะเข้ามาในเว็บไซต์ไว้ที่ 100,000 ราย ภายในสิ้นปีนี้ โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ลูกค้าระดับ B+ และ กลุ่มลูกค้าที่ชอบการช้อปเป็นออนไลน์เป็นประจำ ส่วนเป้ารายได้จากการขายตั้งไว้ที่ 150 ล้านบาท ภายในสิ้นปี โอกาสการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังมีอีกมาก จากตัวเลขการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในรอบปีที่ผ่านมา 2555-56 พบว่าเติบโตกว่า 30% (B2C) มียอดสั่งซื้อถึง 90,000 ล้านบาท สำหรับในปี 2556 มียอดสั่งซื้อกว่า 130,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่การเติบโตสูงมากในกลุ่มประเทศอาเซียน แต่ปรากฏว่าผู้เล่นในตลาดรายใหญ่ล้วนแต่เป็นของต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นเยอรมัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อเมริกา ยุโรป ซึ่งได้ซื้อกิจการจากผู้ถือหุ้นไทยไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ตลาด E-Commerce ในประเทศไทย เป็นตลาดที่ต่างชาติส่งสินค้ามาขาย เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดจากค้าปลีกไทยเป็นจำนวนมาก แต่วันนี้ไทยช้อป จะเป็นผู้นำแบรนด์ไทยออกสู่ต่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยช้อปได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในการนำสินค้า OTOP ในระดับ พรีเมี่ยม อาทิเช่น กระเป๋าจากดัไซเนอร์ไทย เสื้อผ้า เครื่องประดับหรู ผ้าไหมไทย มาเป็นอีกหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยไทยช้อปได้วางแผนการขยายธุรกิจไปสู่ระดับภูมิภาค ได้แก่ มาเลเซีย และสิงคโปร์โดยคาดว่าจะสามารถขยายธุรกิจไปได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยการไปเปิดสาขาในแต่ละประเทศจะนำจุดเด่นของ local brand ของประเทศนั้นๆ ขึ้นมาขายด้วย เพื่อเป็นการสร้างให้สินค้า brand local เป็นที่รู้จัก และมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ โดยจะเปิดให้ลูกค้าจากประเทศในอาเซียนสามารถเข้ามาชมและช้อปสินค้าได้” นายสมเกียรติกล่าว

www.THAIshope.com ก่อตั้งขึ้นโดย บริษัท ไทยช้อป อีคอมเมิร์ซ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ( อยู่ในระหว่างการเพิ่มทุนเป็น 100 ล้านบาท) ดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซขายของผ่านเว็บไซต์ ซึ่งมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย นับเป็นห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่น่าเชื่อถือทั้งยังถือหุ้นโดยคนไทย 100% และนอกจากการขายสินค้าออนไลน์แล้ว ยังอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้เลือกซื้อสินค้าที่ ThaiShope Space ได้ด้วย โดย Shop แรกตั้งอยู่ที่ ชั้น 11 อาคารอิตัลไทย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ กทม. ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02- 716 1135 , 089-615 2226

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๓ LE โชว์ผลงาน Q3/67 กำไรทะยาน 312% รายได้อยู่ที่ 720 ลบ. ส่งซิก Q4 โตต่อเนื่อง ล่าสุดกอด Backlog แน่น 1,300
๑๗:๕๐ แม็คโคร พัทยา ปรับโฉมใหม่ รองรับกำลังซื้อช่วงไฮซีซั่น พร้อมจัดแคมเปญขอบคุณลูกค้าส่งท้ายปี ส่งมอบความคุ้มค่าทั่วเมืองพัทยา
๑๗:๒๑ ยันม่าร์ โชว์นวัตกรรมการเกษตร ในงานประชุมใหญ่ชาวไร่อ้อยสามัญประจำปี พร้อมฉลองครบรอบ 45 ปี สนับสนุนเงินดาวน์แทรกเตอร์ถึง 3
๑๗:๕๒ CHAYO งบ Q3/67 สุดปังทั้งรายได้และกำไร งวด 9 เดือนรายได้พุ่ง 38.85% มั่นใจรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 20%
๑๗:๔๘ TNP เข้ารับเกียรติบัตร CAC ในฐานะบริษัทฯ ที่ได้รับการต่ออายุรับรองครั้งที่ 2 มุ่งมั่นเป็นองค์กรที่ร่วมต่อต้านคอร์รัปชันในภาคเอกชนไทย
๑๗:๕๙ คริสตัล โฮม ร่วมกับ AXOR จัดเวิร์กชอป The Power of Colors เผยเคล็ดลับดีไซน์ห้องน้ำหรูด้วยสีสันที่โดดเด่น
๑๗:๓๕ ทีเอ็มบีธนชาต ชวนซื้อสลากกาชาดทีทีบี ได้บุญ พร้อมลุ้นโชค 716 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ การให้ บำรุงสภากาชาดไทย
๑๗:๒๕ PRTR ประกาศงบ Q3/67 กำไรนิวไฮอีกครั้ง โตกว่า 14% ธุรกิจ Outsource ดาวเด่น คาด Q4/67 ดีมานด์พุ่ง
๑๗:๔๔ PLUS ส่ง Coco Royal ลุยช่องทางการขายชั้นนำในจีน ดันยอดขายพุ่ง รับออเดอร์ลูกค้ารายใหญ่ พร้อมเดินหน้าเต็มกำลังการผลิต
๑๗:๓๘ PRAPAT ฟอร์มแกร่ง! กวาดกำไร Q3/67 โต 77% แตะ 17.49 ล้านบาท รับปัจจัยหนุนจากรายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัว