ปีเตอร์ แจ็คสัน กล่าวว่า “การเดินทางของเราในการสร้างภาพยนตร์ไตรภาคเรื่อง ‘The Hobbit’ ก็คล้ายกับการเดินทางของบิลโบ ความลับหลายเรื่องจะเปิดเผยให้เรารู้เมื่อเราได้เดินทางผ่าน รู้สึกว่าชื่อ ‘There and Back Again’ มีความเหมาะสมกับช่วงเวลาที่ภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องเล่าถึงภารกิจการทวงคืนเอเรบอร์ ตอนที่บิลโบเดินทางไปถึงที่นั่นและเดินทางจากไปคือเหตุการณ์ที่อยู่ในภาคสอง แต่ภาพยนตร์ทั้งสามตอนกลับให้ความรู้สึกว่าเป็นการสลับช่วงเวลาขึ้นมาทันที หลังจากที่บิลโบได้เดินทางไปถึง ‘ที่นั่น’ ในภาค ‘The Desolation of Smaug’ ตอนที่เราเดินทางเปิดตัวหนังเมื่อปลายปีที่แล้ว ผมคุยกับสตูดิโออย่างเงียบๆ เรื่องไอเดียของการทบทวนชื่อเรื่องอีกครั้ง เราตัดสินใจเปิดอกคุยกันจนกระทั่งภาพยนตร์ตัดต่อเรียบร้อยพร้อมรับชม เราได้คำตอบเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว และหลังจากที่ดูภาพยนตร์พวกเราทุกคนต่างเห็นตรงกันว่าจะมีชื่อเรื่องเดียวที่รู้สึกเหมาะสมที่สุด และจึงกลายเป็น ‘The Hobbit: The Battle of the Five Armies’”
ภาพยนตร์ไตรภาคเรื่อง “The Hobbit” เป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนมิดเดิ้ลเอิร์ธ 60 ปีในเรื่อง “The Lord of the Rings” ซึ่งผู้สร้างภาพยนตร์ปีเตอร์ แจ็คสัน เจ้าของรางวัล Academy Award® และทีมงานของเขานำเสนอสู่จอยักษ์ในรูปแบบผลงานไตรภาคสุดโด่งดังจนในที่สุดได้รับรางวัล Oscar® จาก “The Lord of the Rings: The Return of the King”
เอียน แม็คเคลเลน กลับมารับบท แกนดัล์ฟ พ่อมดเทา พร้อมกับ มาร์ติน ฟรีแมน ที่มารับบทสำคัญของ บิลโบ แบ๊กกิ้นส์ และ ริชาร์ด อาร์มิเทจ ที่มารับบท ธอริน โอเคนชิลด์ เหล่านักแสดงระดับโลกนำทีมโดย อีแวนเจลีน ลิลลี่, ลี เพซ, ลุค อีแวนส์, เบเนดิค คัมเบอร์แบตช์, สตีเฟ่น ฟราย, เคต บลังเช็ตต์, เอียน โฮล์ม, คริสโตเฟอร์ ลี, ฮิวโก้ วีฟวิ่ง, เค็น สต็อตต์, เจมส์ เนสบิตต์ และออร์แลนโด้ บลูม นักแสดงในภาพยนตร์ยังรวมถึง (เรียงตามตัวอักษร) จอห์น เบล, มานู เบนเน็ตต์, เจด โบรฟี่, อดัม บราวน์, จอห์น คอลเล็น, บิลลี่ คอนนอลลี่, ไรอัน เกจ, มาร์ค แฮดโลว์, ปีเตอร์ แฮมเบิลตัน, สตีเฟ่น ฮันเตอร์, วิลเลียม เคอร์เชอร์, ลอว์เรนซ์ มาคอร์, ซิลเวสเตอร์ แม็คคอย, กราแฮม แม็คทาวิช, ดีน โอ’กอร์แมน, มิคาเอล เพิร์สแบรนด์, ไอดัน เทอร์เนอร์
บทภาพยนตร์เรื่อง “The Hobbit: The Battle of the Five Armies” เขียนขึ้นโดย ฟราน วอล์ช, ฟิลลิปป้า โบเยนส์, ปีเตอร์ แจ็คสัน และ กิลเลอร์โม เดล โตโร สร้างขึ้นจากนิยายของเจ.อาร์.อาร์.โทลคีน อำนวยการสร้างฯ โดยแจ็คสันพร้อมกับแคโรลิน คันนิงแฮม, เซน วีเนอร์ และ ฟราน วอล์ช อำนวยการสร้างบริหารฯ โดย อลัน ฮอร์น, โทบี้ เอ็มเมอริช, เค็น คามินส์ และ แคโรลิน แบล็ควูด ร่วมอำนวยการสร้างบริหารฯ โดย ฟิลลิปป้า โบเยนส์ และ ไอลีน โมแรน
ทีมงานเบื้องหลังภาพยนตร์ที่สร้างสรรค์ได้กลับมาร่วมงานกับทีมแจ็คสัน อาทิเช่น ผู้กำกับภาพ แอนดรูว์ เลสนี่ ผู้ออกแบบฉาก แดน เฮนนาห์, ผู้ออกแบบคอนเซ็ปต์ อลัน ลี และ จอห์น โฮว์ ผู้ประพันธ์ดนตรี ฮาเวิร์ด ชอว์ และผู้ออกแบบทรงผมและการแต่งหน้า ปีเตอร์ คิง ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย แอน มาสครีย์, ริชาร์ด เทย์เลอร์ และ บ็อบ บัค เทย์เลอร์ยังควบคุมการออกแบบและการผลิตอาวุธ เกราะป้องกัน และการแต่งหน้าเทียมที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างผลงานโดย Weta Workshop ที่คว้ารางวัลมาแล้ว Weta Digital รับหน้าที่ด้านวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ของภาพยนตร์ นำทีมโดยผู้ควบคุมด้านวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ โจ เลทเทอรี่ ผู้ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ อีริค เซนดอน ผู้ควบคุมแอนิเมชั่น เดวิด เคลย์ตัน
ภายใต้การกำกับฯ ของแจ็คสันนี้ ภาพยนตร์เรื่อง “The Hobbit: The Battle of the Five Armies” มีการถ่ายทำในระบบ 3 มิติ 48 เฟรมต่อวินาที และจะฉายในระบบ High Frame Rate 3D (HFR 3D) ในบางโรงภาพยนตร์ รวมทั้งระบบธรรมดา ระบบ 3 มิติและระบบ IMAX® การถ่ายทำใช้สถานที่ใน Miramar ของแจ็คสันที่เวลลิงตัน และสถานที่รอบประเทศนิวซีแลนด์ ในส่วนของโพสต์โปรดักชั่นใช้สถานที่ของ Park Road Post Production ที่เวลลิงตัน
New Line Cinema และ Metro-Goldwyn-Mayer Pictures นำเสนอภาพยนตร์โดย WingNut Films Production เรื่อง “The Hobbit: The Battle of the Five Armies” ภาพยนตร์สองภาคแรกในผลงานไตรภาคคือเรื่อง “The Hobbit: An Unexpected Journey” และ “The Hobbit: The Desolation of Smaug” ภาพยนตร์ตอนสุดท้ายเป็นผลงานการผลิตของโดย New Line Cinema Metro-Goldwyn-Mayer Pictures (MGM) วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ควบคุมการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในประเทศ พร้อมด้วยบางประเทศรวมถึงสนธิสัญญาการจัดจำหน่ายทางทีวีทั่วโลกได้รับการควบคุมโดย MGM
www.thehobbit.com