นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ออกมาเปิดเผยถึงความต้องการคอนโดมิเนียมในหัวหินมีแนวโน้มลดลง จากการวิเคราะห์ยอดขายของหลายโครงการในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ อาจเกิดจากกระแสของผู้ซื้อหลักที่เป็นลูกค้าคนไทยกว่าร้อยละ 70 ของช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้แผ่วลง รวมทั้งการชะลอการตัดสินใจซื้อเนื่องจากเกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน
ถึงแม้ว่าความต้องการซื้อคอนโดฯ หัวหินจะลดลง แต่การปรับลดราคาคอนโดมิเนียม คงจะไม่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาฯ หัวหิน โดยโครงการคอนโดจะเน้นไปที่การหาวิธีทางการตลาด และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด (Promotion) เพื่อกระตุ้นยอดขายของโครงการ ซึ่งเมื่อวิเคราะห์สถาณการณ์แล้ว สำหรับผู้ซื้อหรือนักลงทุนตัวจริงต้องมองสถานการณ์ให้เป็นโอกาส ในการเข้าไปเลือกซื้อหรือลงทุน เนื่องจากอาจมีอำนาจในการต่อรอง การได้เงื่อนไขทางด้านการเงินที่ดี ด้วยเหตุที่เมืองหัวหินยังคงมีจุดขายอยู่หลายด้าน อาทิ การเป็นเมืองตากอากาศที่มีแนวคิด หรือ Concept และรูปแบบที่คลาสสิค เป็นเซพตี้โซน และมีการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ต่างๆ ที่นอกเหนือจากโครงการที่อยู่อาศัย และด้วยข้อจำกัดด้านที่ดิน ทำให้คาดว่าโครงการใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในโซนหัวหินจริงๆ นั้น จะไม่ได้ง่ายดายอีกต่อไป ดังนั้นการลงทุนในระยะยาว เพื่อเป็นทรัพย์สิน หรือสร้างผลตอบแทนในอนาคตก็ยังถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ยังสดใสสำหรับผู้ซื้อหรือนักลงทุนตัวจริง
หากมองในอีกด้านหนึ่งของการซื้อหรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้น เมืองตากอากาศหัวหินมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ผู้ซื้อได้นำมาพิจารณาในการตัดสินใจ แม้ว่าหลายๆ คนในวงการอาจมองว่า ความต้องการคอนโดมิเนียมหัวหินลดลงอย่างมีนัยยะ แต่ยังมีกลุ่มผู้ซื้อที่มีความพร้อมและสนใจซื้อเพื่อการลงทุน ถ้ามองหัวหินในมุมของการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในวันสุดสัปดาห์และเทศกาล พบว่าอัตราการเข้าพักโรงแรมรีอร์ทสูงจนเกือบเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเหตุนี้ทำให้ ผู้ซื้อหรือนักลงทุนมีมุมมองในการซื้อห้องชุดเปลี่ยนไปจากเดิมที่ซื้อสำหรับพักผ่อนและเป็นบ้านหลังที่สองอย่างเดียว เปลี่ยนไปเยี่ยมชมโครงการที่สามารถเปลี่ยนมาเป็นห้องพักให้เช่าในช่วงวันหยุดหรือเทศกาลได้ ทำให้การซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อให้มีผลตอบแทนของกลุ่มลูกค้าประเภทนี้มีสูงขึ้นและมีความเฉพาะตัวมากขึ้น
บริษัท เซ็นจูรี่ 21 ( ประเทศไทย) จำกัด ยังวิเคราะห์ถึงองค์ประกอบหลักในการเลือกพิจารณาคอนโดมิเนียมในหัวหิน ดังนี้
1. ทำเลที่ตั้งของโครงการ : หลายๆ โครงการจะสื่อให้เห็นว่าอยู่โซนหัวหิน แต่จริง ๆ แล้วอยู่ตรงไหน ?
หัวหิน, หัวหิน-เขาตะเกียบ, หัวหิน-ปราณบุรี หรือ หัวหิน-ชะอำ ให้สำรวจดูทำเลที่เราสนใจจริง และตรงกับความต้องการของเรา
2. ราคาขายต่อตารางเมตร : คาดว่าราคาขายคงจะไม่มีการปรับลด จากความต้องการที่ลดลง แต่ให้พิจารณาจากเงื่อนไข โปรโมชั่นที่ดีและความคุ้มค่า โดยราคาเฉลี่ยขายของคอนโดมิเนียมหัวหินฝั่งทะเล อยู่ที่ประมาณ 80,000 บาทต่อตารางเมตร โดยบางโครงการที่อยู่ติดทะเลมีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงถึง 130,000 บาท สำหรับทำเลบริเวณเขาเต่า เป็นทำเลที่มีโครงการระดับลักชัวรี่ ทำให้ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 110,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนทำเลชะอำและหัวหินฝั่งภูเขา ยังมีราคาขายที่ไม่สูงมากนัก อยู่ที่ประมาณ 60,000 บาทต่อตารางเมตร
3. การได้รับอนุมัติด้านสิ่งแวดล้อม (EIA APPROVED) และความคืบหน้าด้านการก่อสร้าง : ควรพิจารณาว่าโครงการที่จะซื้อได้รับการอนุมัติด้านสิ่งแวดล้อมและมีการก่อสร้างเมื่อไร ถ้าเห็นว่าโครงการเริ่มการก่อสร้างแล้ว ควรติดตามดูความคืบหน้า ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง
4. ผลตอบแทนการลงทุน : ลองพิจารณาโครงการที่สามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุน เช่น การการันตีผลตอบแทน หรือการให้ส่วนลดทันที ถ้าคำนวณแล้วพบว่ามีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ดีก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ
เมื่อนำองค์ประกอบหลัก ๆ นี้มาเป็นเครื่องมือในการประเมินให้คะแนนเปรียบเทียบโครงการคอนโดมิเนียมที่จะซื้อหรือลงทุน วิเคราะห์ถึงโอกาสในการทำกำไร รวมไปถึงเก็บเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าในอนาคต ถือเป็นโอกาสที่น่าช่วงชิงใน สถานการณ์ปัจจุบัน