แม้ว่าในอดีตโครงการจัดสรรที่ดินเปล่าแบ่งขาย และโครงการบ้านพักตากอากาศจะเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ประกอบการ และผู้ซื้อในบริเวณเขาใหญ่ โดยสามารถสังเกตได้จากการที่โครงการจัดสรรที่ดินเปล่าแบ่งขาย และโครงการบ้านพักตากอากาศมีการเปิดขายมากกว่าโครงการอาคารชุดในช่วงก่อนปีพ.ศ.2555 แต่ว่าหลังจากปีพ.ศ.2554 เป็นต้นมามีโครงการอาคารชุดเปิดขายเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่โครงการประเภทอื่นๆ มีการขยายตัวน้อยกว่า
โดยในเรื่องนี้ นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า “ในปีพ.ศ.2555 มีอาคารชุดเปิดขายมากกว่า 1,261 ยูนิต มากกว่าที่อยู่อาศัยประเภทอื่นรวมกันถึง 2 เท่า และในปีพ.ศ.2556 อาคารชุดยังคงเปิดขายมากกว่าที่อยู่อาศัยประเภทอื่น เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในเขาใหญ่ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมาเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งคนกลุ่มนี้ต้องการมาพักอาศัยแค่ในช่วงสุดสัปดาห์ หรือว่าวันหยุดยาวเท่านั้น อาจจะไม่ได้ต้องการพื้นที่สวน หรือสระว่ายน้ำส่วนตัวเพราะไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ดังนั้นอาคารชุดจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากราคาไม่แพง สะดวกในการรักษาความปลอดภัย และการดูแลรักษา”
พื้นที่ตามแนวถนนธนะรัชต์เป็นพื้นที่ที่มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายมากที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากว่าเป็นพื้นที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบสามารถรองรับความต้องการของคนที่เดินทางมาพักอาศัยได้ นายสุรเชษฐ กองชีพ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "แม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพื้นที่ตามแนวถนนธนะรัชต์จะเป็นพื้นที่ที่มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายมากที่สุดก็ตาม แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าพื้นที่ตามแนวถนนเขาใหญ่ – วังน้ำเขียวก็เป็นพื้นที่ที่มีการยขยายตัวของโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ยังค่อนข้างขาดแคลนสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับ แต่ว่าเนื่องจากสภาพพื้นที่ที่ค่อนข้างเงียบสงบ และเป็นถนนที่ขนานไปกับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงทำให้มีแนวภูเขาขนานไปตลอดทั้งเส้นทาง ซึ่งตลอดพื้นที่ตามแนวถนนเส้นนี้โครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ระดับหรูหรา และโรงแรมหรือรีสอร์ทระดับ 4 - 5 ดาวอยู่หลายแห่ง รวมทั้งสนามกอล์ฟ "
ราคาขายเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยในเขาใหญ่ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา
ปี 2555 2556 2557
ราคาขายบ้านจัดสรร และบ้านพักตากอากาศ
ราคาขาย (ล้านบาท / ยูนิต) 9.79 12.40 12.89
% ที่เปลี่ยนแปลงระหว่างปีต่อปี - 27% 4%
ราคาขายของที่ดินจัดสรรในโครงการ
ราคาขาย (บาท / ตารางวา) 9,750 11,000 12,150
% ที่เปลี่ยนแปลงระหว่างปีต่อปี - 13% 10%
ราคาขายของอาคารชุด
ราคาขาย (บาท / ตารางเมตร) 62,658 74,075 84,058
% ที่เปลี่ยนแปลงระหว่างปีต่อปี - 18% 13%
ในส่วนของราคาขายของที่อยู่อาศัยทุกประเภทนั้น นายสุรเชษฐ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ราคาขายของที่อยู่อาศัยในเขาใหญ่เพิ่มขึ้นมากในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปีพ.ศ.2556 ที่ราคาที่อยู่อาศัยทุกประเภทปรับเพิ่มขึ้นปรับเพิ่มจากปีพ.ศ.2555 มากกว่า 10% โดยที่มีโครงการบ้านจัดสรรปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือเพิ่มขึ้นประมาณ 27% จากราคาขายเฉลี่ยในปีพ.ศ.2555 เพราะว่ามีโครงการบ้านจัดสรร หรือบ้านพักตากอากาศที่มีราคาขายสูงกว่า 15 ล้านบาทเปิดขายหลายโครงการ ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยของอาคารชุดในปีพ.ศ.2557 ก็ปรับเพิ่มจากที่พ.ศ.2556 ประมาณ 13% แม้ว่าในปีพ.ศ.2556 จะเพิ่มขึ้นจากปีพ.ศ.2555 มาแล้ว ประมาณ 18% ก็ตาม”
แต่ว่ายอดขายของโครงการที่อยู่อาศัยในแหล่งท่องเที่ยวอาจจะไม่สูงมากนัก และค่อยเป็นค่อยไปเมื่อเทียบกับโครงการในกรุงเทพมหานคร หรือหัวเมืองใหญ่ๆ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าโครงการที่มีการการันตีผลตอบแทน หรือยูนิตที่มีการการันตีผลตอบแทนจะได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ และขายได้มากกว่า บางโครงการมียอดขายเกือบ 80% เลยทีเดียวสำหรับยูนิตในส่วนนี้ เนื่องจากผู้ซื้อต้องการต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเขาใหญ่เพื่อเป็นบ้านพักในช่วงสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดยาว ดังนั้นไม่ได้มาพักเป็นประจำ จึงมองหาช่องทางในการสร้างรายได้ โดยการซื้อยูนิตที่มีการการันตี แม้ว่าจะเป็นการการันตีช่วงสั้นๆ 1 – 3 ปีเท่านั้น
“อัตราการขายได้ของโครงการที่อยู่อาศัยในเขาใหญ่แยกตามประเภทพบว่าที่ดินเปล่าจัดสรรมีอัตราการขายได้มากที่สุดคือประมาณ 70% เพราะผู้ซื้อบางส่วนต้องการซื้อที่ดินในเขาใหญ่เก็บไว้ก่อน และต้องการสร้างบ้านในแบบที่ตนเองชอบแตกต่างจากคนอื่น ในขณะที่อาคารชุดก็ได้รับความนิยมพอสมควรเพราะมีอัตราการขายได้อยู่ที่ประมาณ 62% แม้ว่าจะมีอาคารชุดเปิดขายค่อนข้างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนโครงการบ้านจัดสรร และบ้านพักตากอากาศมีอัตราการขายอยู่ที่ประมาณ 61% ไม่ได้แตกต่างจากอาคารชุดมากนัก ซึ่งถ้าพิจารณาจากอัตราการขายของทั้ง 3 ประเภทจะเห็นได้ว่าที่อยู่อาศัยในเขาใหญ่ยังคงขายได้อยู่ แต่อาจจะมีอัตราการขายที่ไม่โดดเด่นมากนัก และในปีนี้อาจจะมีการขยายตัวไม่มากทั้งในเรื่องของโครงการเปิดขายใหม่ และอัตราการขาย”