ปัจจัยลบทุบรับสร้างบ้านหดตัว พีดีเฮ้าส์ ปิดสาขาหนีกทม.-เปิดตจว.ชดเชย

พุธ ๐๗ พฤษภาคม ๒๐๑๔ ๑๕:๕๔
รับสร้างบ้านกทม.หืดจับ เหตุปัจจัยลบรอบด้าน ส่องตลาดกทม.ไตรมาส 2 ค่ายใหญ่แข่งเดือด ทุ่มโฆษณาอัดโปรโมชั่นลดแหลก 10-25% หวังกระตุ้นยอดขาย ด้านพีดีเฮ้าส์เผย เจอพิษการเมืองเศรษฐกิจ ยอดขาย Q1 หดตัวร้อยละ 6 ล่าสุดตัดใจปิดสาขากทม.-เบนเข็มเปิดสาขาตจว.แทน โวยังมีงานสร้างบ้านตุน 300 หลังมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ไม่หวั่นคู่แข่งตัดราคา เพราะบุกตลาดต่างจังหวัดแบบไร้คู่แข่ง เตรียมงบ 10 ล้านบาท ตอกทุ่มย้ำแบรนด์รับสร้างบ้านอันดับ 1

นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า แนวโน้มจีดีพีไตรมาสแรกเติบโตต่ำกว่าที่สศค.และอีกหลายหน่วยงานคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ถือเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศปีนี้ส่อแววหดตัว ในส่วนของภาคธุรกิจรับสร้างบ้านเองพบว่า ความต้องการสร้างบ้านหลังใหม่หรือกำลังซื้อในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว กอปรกับปัญหาขาดแคลนแรงงานก็ยังเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการรายเล็กแก้ไม่ตก ส่งผลให้รายที่ปรับตัวไม่ทันเริ่มเกิดอาการถอดใจ ในขณะที่คู่แข่งรายใหญ่และรายผู้นำอาศัยความได้เปรียบที่สายป่านยาว หันมาทุ่มงบโฆษณาและจัดโปรโมชั่นลดกระหน่ำ 10-25% หวังดูดกำลังซื้อที่มีอยู่จำนวนจำกัด ส่งผลให้ปีนี้กลายเป็นปีทองของผู้บริโภคที่จะเลือกช็อปบ้านราคาไม่แพง หลังจากในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาบ้านขยับขึ้นกว่าร้อยละ 15-20

“สำหรับ พีดีเฮ้าส์ ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ยอมรับว่ายอดขายต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ร้อยละ 6 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เชื่อว่าเป็นผลมาจากปัจจัยลบทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการชุมนุมประท้วงของประชาชน พบว่ายอดขายของบริษัทฯ ปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ล่าสุดตัดสินใจปิดสาขาในกทม. ได้แก่ สาขาย่อยศูนย์ฯ สิริกิติ์ เหตุเพราะปริมาณลูกค้าที่เข้ามาติดต่อลดลงอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนๆ อย่างไรก็ดีบริษัทฯ เองก็ได้เร่งปรับตัวโดยหันไปขยายสาขาใหม่ๆ ในต่างจังหวัดแทน โดยในไตรมาสแรกเปิดสาขาจังหวัดชุมพรนำร่องเป็นแห่งแรก และเมื่อเร็วๆ นี้เปิดสาขาจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นแห่งที่ 2 สำหรับสาขาที่ 3 และ 4 เตรียมเปิดสาขาจังหวัดร้อยเอ็ดและลำปางในช่วงไตรมาส 2 นี้ตามแผนการตลาดที่วางไว้ โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดหรือยอดขายของบริษัทฯ มิให้ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจประเทศที่ชะลอตัว”

นายพิศาล เปิดเผยอีกว่า ปัจจุบันพีดีเฮ้าส์และกลุ่มบริษัทในเครือ มียอดขายและงานสร้างบ้านค้างอยู่ในมือประมาณ 300 หลัง คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้กว่าร้อยละ 80 เป็นยอดขายหรือก่อสร้างอยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า 1.พฤติกรรมและความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคในตจว.มีความอ่อนไหวต่อปัจจัยลบทางการเมืองน้อยว่ากทม. 2.ตลาดรับสร้างบ้านในตจว.มีขนาดใหญ่มากพอ 3.การแข่งขันไม่รุนแรงเพราะยังมีผู้ประกอบการที่มีมาตรฐานและเป็นมืออาชีพน้อยราย ซึ่งการที่บริษัทฯ รุกขยายตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัดในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาจึงถือได้ว่ามาถูกทางแล้ว อย่างไรก็ดี ในช่วงไตรมาส 2 นี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ไว้จำนวน 10 ล้านบาทเศษ เพื่อจะสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์และสร้างการรับรู้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำความเป็น “ศูนย์รับสร้างบ้านอันดับ 1 ของประเทศ”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ