นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ตอนนี้น่าสนใจลงทุนมากเพราะตลาดหุ้นยังมีพีอีที่ต่ำแค่ 9.19 เท่า ในขณะที่ค่าเฉลี่ยในอดีตอยู่ที่ 10.6 เท่า ประเมินผลตอบแทนที่คาดหวังประมาณ 28% หากมีการซื้อขายในระดับพีอีเฉลี่ยบวกอีก 0.5 SD ในขณะที่เศรษฐกิจเกาหลีใต้เติบโตแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ล่าสุดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในไตรมาส 1 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.9% มาจากการเติบโตของภาคการบริโภค การลงทุน และส่งออก
นอกจากภาพรวมของตลาดหุ้นที่ยังไม่แพง ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ยังมีบริษัทชั้นนำระดับโลก เช่น บริษัท ซัมซุง ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตและส่งออกโทรศัพท์มือถือ ทีวี และ สินค้าอิเล็คโทรนิคส์, บริษัท เนเวอร์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโมบายแอพ ชื่อ “ไลน์” ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงอยู่ในขณะนี้ หรือ แม้แต่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์อย่างฮุนได ที่ขายรถยนต์ไปทั่วโลก ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่คนไทยจะได้ไปลงทุนในบริษัทชั้นนำระดับโลกที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นเกาหลีโดยผ่านกองทุนรวม ซึ่งจากการประมาณการณ์ของนักวิเคราะห์พบว่าหุ้นชั้นนำเหล่านี้ยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ถึง 26-30% หากมีราคาตลาดของหุ้นเหล่านี้ปรับตัวเข้าใกล้ราคาเป้าหมาย ณ ปัจจุบัน หุ้นของบริษัททั้งสาม คิดเป็นมูลค่า 33% ของมูลค่าตลาดหุ้นเกาหลีเลยทีเดียว
ดังนั้น เพื่อเป็นการเปิดโอกาสการลงทุนในหุ้นชั้นนำของเกาหลีใต้ บลจ.ทิสโก้ จึงได้เปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ เกาหลี อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #2” โดยกองทุนนี้จะเลิกกองทุนเมื่อสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% หรือมีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) มากกว่าหรือเท่ากับ 10.80 บาท เปิดเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) ระหว่างวันที่ 8 – 16 พ.ค. 57 นี้ มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดต่อขอหนังสือชี้ชวนฯ และจองซื้อได้ที่ ได้ที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
เนื่องจากกองทุนต่างประเทศไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
ผู้ลงทุนควรตระหนักว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงการกำหนดเป้าหมายที่เป็นเหตุให้เลิกโครงการเท่านั้น
ไม่ใช่การประมาณการหรือการรับประกันผลตอบแทน
ทั้งนี้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย เป็นผลตอบแทนก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง(ถ้ามี)