มร.อุลริค ลาร์เซ่น ผู้อำนวยการฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด บริษัท เอสซีเอ ไฮยีน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมเด็กยอดนิยม “ดรายเพอร์ส” เปิดเผยว่า อัตราการเติบโตของตลาดผ้าอ้อมเด็กในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าตลาดรวม 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยม, เบสิค และอีโคโนมี ตามราคาขายในตลาด และหากเปรียบเทียบการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมเด็กของไทย กับประเทศอื่นๆในภูมิภาคเดียวกัน จัดว่าประเทศไทยมีแนวโน้มทางการตลาดที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ภาพรวมตลาดมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้น ทั้งในด้านยอดขายและปริมาณ โดยตลาดใหญ่อย่างผ้าอ้อมกางเกง จะมีส่วนแบ่ง 70% ตลาดผ้าอ้อมแบบเทป 30% ดังนั้นบริษัทฯ จึงได้มีการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดควบคู่ไปกับการเจาะตลาดเพิ่มช่องทางการขาย เพื่อเข้ามาเพิ่มแชร์ตลาดผ้าอ้อมในประเทศไทยมากขึ้น แม้การแข่งขันในตลาดจะสูงแต่ก็มั่นใจในจุดแข็งของบริษัทซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำผลิตภัณฑ์สุขอนามัยระดับโลกที่มีผ้าอ้อมเด็กวางจำหน่ายอยู่ทั่วโลกเช่นกัน และมีแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยมุ่งมั่นตอบสนองให้ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด จึงได้นำมาสู่ ดรายเพอร์สโฉมใหม่ ที่สุดแห่งความสบาย เพื่อตอกย้ำความมั่นใจว่า คุณแม่ที่เลือกใช้ดรายเพอร์สจะได้ใช้ผ้าอ้อมที่มีคุณภาพในระดับสากล และได้มอบการดูแลที่ดีที่สุดให้กับเจ้าตัวน้อย
มิสโจน เลอ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กล่าวเสริมว่าในปี 2557 บริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณทางการตลาดพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลลูกน้อยที่ดียิ่งขึ้น โดยได้เปิดตัวโฉมใหม่ผ้าอ้อมดรายเพอร์ส ครั้งสำคัญ ทั้งปรับปรุงคุณภาพและแพ็คเกจให้น่ารักโดดเด่นเป็นสากล ชูนวัตกรรมแอคทีฟคอร์ และชั้นซึมซับแอคทีฟเพื่อการซึมซับและความแห้งสบายสมกับชื่อแบรนด์ “ดรายเพอร์ส” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณพ่อ-คุณแม่ยุคใหม่ ซึ่งมีลูกในวัยผ้าอ้อม โดยผลิตภัณฑ์ดรายเพอร์สจะประกอบด้วย ดรายเพอร์ส ดรายแพ้นท์ส กางเกงผ้าอ้อม และดรายเพอร์ส วีวี่ดราย ผ้าอ้อมแบบเทป ครอบคลุมตั้งแต่เจ้าตัวน้อยวัยแรกเกิดจนถึงไซส์ XXL พร้อมดึงดารานักร้องหนุ่มคุณพ่อป้ายแดงสุดฮอต “ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล” มาเป็น แบรนด์ แอมบาสซาเดอร์คนแรกของดรายเพอร์ส เพื่อเป็นตัวแทนครอบครัวยุคใหม่ เน้นการสื่อสารถึงความมั่นใจในการเลือกใช้ดรายเพอร์ส เพื่อมอบการดูแลที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อย และสร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาดด้วยการเลือกใช้แอมบาสซาเดอร์ผู้ชาย เพื่อแสดงถึงครอบครัวสมัยใหม่ ที่คุณพ่อเข้ามามีบทบาทในการดูแลลูกน้อยมากขึ้น และเป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่น่ารักๆในอีกแง่มุมหนึ่งของครอบครัว ดรายเพอร์สพร้อมรุกตลาดทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เน้นการทำกิจกรรมเป็นหลักและการใช้สื่อดิจิตอลออนไลน์ในการเข้าถึงลูกค้า มีการจัดทำเฟซบุ๊คแฟนเพจ การทำไวรัล และจัดทำภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่
นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับปรุงการจัดจำหน่ายและช่องทางการขาย เพื่อเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภค มั่นใจดรายเพอร์สเป็นสินค้ามีคุณภาพสูงประกอบกับรูปแบบแพ็คเกจจิ้งที่น่ารักโดดเด่น คุณสมบัติของสินค้าที่ซึมซับได้ดีแห้งเร็วกว่าเดิม สามารถป้องกันการไหลย้อนกลับได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผิวลูกน้อยแห้งสบาย มีสารสกัดจากธรรมชาติ 4 ชนิดช่วยบำรุงให้ผิวมีสุขภาพดี ขอบเอวและขอบขากระชับและยืดหยุ่นพอดีกับรูปร่างลูกน้อย ให้ลูกเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและสบายตัวยิ่งขึ้น จะสามารถสู้กับคู่แข่งได้ไม่ยาก
ปัจจุบันตลาดรวมมีแบรนด์ หลักๆ 3 แบรนด์ คือ มามี่ โพโค, เบบี้เลิฟและดรายเพอร์ส โดยปีนี้ได้มีการกลับมาของแบรนด์ ฮักกี้ส์ด้วยเช่นกัน แม้การแข่งขันจะดุเดือด ด้วยการทำการตลาดที่แตกต่าง ดรายเพอร์สก็ตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถรักษาตำแหน่งแบรนด์ผู้นำอันดับ 3 พร้อมขยายฐานลูกค้าให้มีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมที่จะชิงตำแหน่งผู้นำอันดับ 2 ของผ้าอ้อมเด็กกลับคืนมาอีกด้วย ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกล่าวทิ้งท้าย