รอบรู้เรื่อง “นิ้วล็อก” ภัยใกล้ตัวที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม

พฤหัส ๐๘ พฤษภาคม ๒๐๑๔ ๑๗:๑๖
นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคนิ้วล็อกเป็นความผิดปกติของนิ้วมือที่มีการสะดุดหรือล็อก ไม่สามารถกำหรือเหยียดนิ้วมือได้เป็นปกติ พบในเพศหญิงร้อยละ 80 และพบในเพศชายร้อยละ 20 โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป อาจเป็นเพราะผู้หญิงใช้มือทำงานซ้ำๆ มากกว่าผู้ชาย เช่น หิ้วถุงหนักๆ การบิดผ้า ซักผ้า การกวาดบ้าน ถูบ้าน สับหมู สับไก่ และมีพฤติกรรมเหล่านี้เป็นระยะเวลานานๆ รวมถึงผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ที่เป็นโรครูมาตอยด์มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้มากขึ้น

อาการของโรคนิ้วล็อก คือ ในระยะแรกจะมีอาการปวดบริเวณ โคนนิ้วมือ กำมือไม่ถนัด หรือกำได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะตอนเช้าหลังตื่นนอน เวลางอที่จะเหยียดนิ้วมือมักจะได้ยินเสียงดังกึก ต่อมาจะมีอาการนิ้วล็อก คือ เวลางอนิ้วจะเหยียดขึ้นเองไม่ได้ มักเกิดกับมือข้างถนัดที่ใช้งาน ซึ่งอาจเป็นเพียงนิ้วเดียว หรือเป็นพร้อมกันหลายนิ้วก็ได้ บางรายอาจรุนแรงถึงนิ้วบวมชา ติดแข็งจนไม่สามารถใช้งานได้

สำหรับวิธีการรักษาโรคนิ้วล็อกมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค การรักษาในระยะแรก คือ การพักการใช้งานของมือ ไม่ใช้งานรุนแรง การรับประทานยาต้านการอักเสบ การทำกายภาพบำบัด ช่วยลดการอักเสบและการติดยึดของเส้นเอ็นกับปลอกเอ็น แต่ในกรณีที่เป็นรุนแรงขึ้นอาจจะรักษาด้วยการใช้ยาต้านการอักเสบร่วมกับการฉีดสเตียรอยด์เข้าไปบริเวณปลอกเอ็น ซึ่งสเตียรอยด์ มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ลดการบวมของเส้นเอ็นและปลอกเอ็น ทำให้อาการดีขึ้นได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ เป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน และจะสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก ทั้งนี้ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยจะหายจากอาการนิ้วล็อกหลังจากการฉีดยาเข็มที่หนึ่ง ส่วนอีกร้อยละ 25 จะหายหลังจากการฉีดยาเข็มที่สอง ซึ่งไม่ควรฉีดยาเกิน 2 ครั้ง ในกรณีที่นิ้วล็อกติดรุนแรงหรือพังผืดหนามากจะฉีดยาไม่ได้ผลแพทย์จะพิจารณาใช้วิธีการผ่าตัด ด้วยวิธีการเจาะผ่านผิวหนัง ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวก ง่าย และประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถทำในแผนกผู้ป่วยนอกได้ทันที ในกรณีที่เป็นหลายนิ้ว สามารถทำพร้อมกันได้ทีเดียว และหากเป็นอีกมือหนึ่งจะแนะนำให้ทำภายหลังจากที่มืออีกข้างหายดีแล้ว การผ่าตัดด้วยวิธีนี้สร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ป่วยเป็นอย่างมาก เนื่องจากเจ็บตัวน้อยมาก ไม่มีแผลเป็นแผลหายเร็ว ไม่ต้องเปิดแผล ไม่ต้องทำแผล ไม่มีเลือดออก อีกทั้งไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเส้นประสาท

ข้อแนะนำสำหรับวิธีหลีกเลี่ยงโรคนิ้วล็อก คือ ไม่หิ้วของหนักเกินไป ถ้าจำเป็นต้องหิ้วให้ใช้ผ้าขนหนูรอง และหิ้วให้น้ำหนักตกที่ฝ่ามือ อาจใช้วิธีการอุ้มประคองหรือรถเข็นลากแทน เพื่อลดการรับน้ำหนักที่นิ้วมือ หากเป็นช่างที่ต้องเครื่องมือทุ่นแรง เช่น ไขควง เลื่อย ค้อน ควรใส่ถุงมือหรือห่อหุ้มด้ามจับให้นุ่มขึ้นและทำขนาดที่จับให้เหมาะสมกับการใช้งาน สำหรับผู้ที่ต้องใช้มือทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ควรพักการใช้มือเป็นระยะๆ และออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อมือบ้าง ไม่ควรขยับนิ้วหรือดีดนิ้วเล่น เพราะจะทำให้เส้นเอ็นอักเสบมากยิ่งขึ้น ถ้าข้อนิ้วฝืดตอนเช้าหรือมือเมื่อยล้า ให้แช่น้ำอุ่นร่วมกับการขยับมือกำแบเบาๆ ในน้ำ จะทำให้ข้อนิ้วฝืดลดลง ฉะนั้นโรคนิ้วล็อกสามารถป้องกันและรักษาให้หายได้ ถ้ารู้จักวิธีดูแลตนเองอย่างถูกต้อง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

โทรศัพท์ 0-2353-9800 (ระบบอัติโนมัติ)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ