นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลให้การออกพันธบัตรใหม่มีความล่าช้าออกไป ในขณะที่ความต้องการของนักลงทุนยังมีอยู่ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มลดลง ซึ่งบริษัทเห็นว่า ช่วงนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะยาว เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน หากผลตอบแทนพันธบัตรลดลงในระยะถัดไป ดังนั้น บริษัทขอแนะนำลงในกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสถาบันปันผล (ASP-IDF) มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ระยะ 1-2 ปี และสามารถลงทุนในตราสารทางการเงินต่างประเทศได้ไม่เกิน 79% โดยกองทุนมีนโยบายจ่ายปันผล
“ปัญหาการเมืองในประเทศที่ยังไม่คลี่คลาย ได้ส่งผลให้เกิดภาวะ Bond Supply ลดลง ในขณะที่ Bond Demand ของผู้ลงทุนยังคงมีอยู่ ซึ่งคำแนะนำของผู้ลงทุนที่ยังสนใจลงทุนในตราสารหนี้ในช่วงนี้ บริษัทขอแนะนำให้ลงทุนในตราสารหนี้ที่มี duration ที่ระยะยาวไว้ก่อน เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน” นายรัชต์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีกองทุนตราสารหนี้อื่นๆ ที่มีนโยบายลงทุนที่หลากหลายสอดคล้องกับพฤติกรรมการลงทุนที่มีหลายรูปแบบ โดยผู้ลงทุนสามารถพิจารณาพฤติกรรมการลงทุนของผู้ลงทุนเองได้ว่าเหมาะสมกับนโยบายกองทุนตราสารหนี้แบบใดมากที่สุด ซึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นถึงปานกลางและสามารถรับความผันผวนได้บ้าง ซึ่งสามารถลงทุนประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี บริษัทขอแนะนำลงทุน กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้ 2 (ASP2) นอกจากนี้ สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีสภาพคล่องสูงแต่ไม่ต้องการรับความผันผวน และรับอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนเงินฝาก บริษัทแนะนำลงทุน กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้ (ASP) ซึ่งทั้ง 3 กองทุน มีการเปิดเสนอขายทุกวันทำการ