นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) (SLC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานเฉพาะส่วนของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2557 มีกำไรสุทธิ 14.582 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานรวมบริษัทย่อย ยังขาดทุนสุทธิ 74.008 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามที่ได้คาดการณ์ไว้ โดยธุรกิจไอทีมีงานคงค้าง (Back Log) อยู่ประมาณ 160 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2557-2559) และในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีงานประมูลด้านบริหารจัดการและดูแลสิ่งแวดล้อมการขายเครื่องมือวิทยาศาสตร์และอิเล็กทรอนิกส์การวางระบบและพัฒนาซอฟต์แวร์ของภาครัฐและภาคเอกชนอีกหลายโครงการที่บริษัทเตรียมเข้าประมูล โดยเบื้องต้นคาดว่าจะได้รับงานประมูลดังกล่าวมูลค่าประมาณ 300-400 ล้านบาท ของมูลค่างานทั้งหมด
ส่วนธุรกิจสื่อ “สปริงนิวส์” หลังจากทดลองออกอากาศในระบบดิจิตอล โดยมีการปรับผังรายการในระยะแรกถึง 14 ชั่วโมง ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชมและเอเจนซี่ โดยจากการสำรวจครั้งล่าสุดของบริษัท อินเทจ ประเทศไทย ได้สอบถามผู้บริโภคผ่านการสัมภาษณ์ผ่าน Mobile Interview 500 ตัวอย่าง ทั่วประเทศ พบว่าช่องข่าวที่ผู้บริโภคนึกถึง 3 อันดับแรก คือ สปริงนิวส์ โดยอยู่ในอันดับสอง ในด้านรอบรู้ ด้วยผลโหวต 22% ส่วนในด้านมีมุมมองนำเสนอรูปแบบใหม่ มีผลโหวต 21% และผลการวัด rating อย่างเป็นทางการจาก AGB Neilsen ก็ดีขึ้นหลายเท่าตัว ส่งผลทำให้มีเม็ดเงินโฆษณาไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้มั่นใจว่ารายได้จะอยู่ที่ 450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ที่ทำได้ 216.18 ล้านบาท ส่วนตัวเลขขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 700 ล้านบาท นายอารักษ์ กล่าวว่า หากบริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานแล้ว ก็จะมีแนวทางในการล้างขาดทุนสะสมดังกล่าวได้ทันที ขณะเดียวกันยังคาดว่าผลประกอบการจะพลิกกลับมามีกำไรได้ในปี 2559 โดยผลประกอบการของ บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด น่าจะพลิกเป็นกำไรได้
“ผลประกอบการที่ขาดทุนในช่วงที่ผ่านมาเกิดจาก สปริงนิวส์ เพราะอยู่ในช่วงของการลงทุน เริ่มตั้งไข่เรื่องของทีวีดิจิตอลและรับคนเข้ามาเพิ่ม เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเกิดของทีวีดิจิตอล ซึ่งการลงทุนดังกล่าวไม่น่ากังวล เพราะหลังจากที่ สปริงนิวส์เริ่มทดลองออกอากาศ ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชมและเอเจนซี่ สู้คนอื่นได้สบาย โดยคาดว่าภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ สปริงนิวส์น่าจะเริ่มมี EBITDA เป็นบวก และเมื่อข้ามไปปีหน้าคงจะเห็นกำไรจากการดำเนินงาน ส่วนธุรกิจไอที น่าจะสามารถทำกำไรได้ในปีนี้และแนวโน้มไตรมาส 2 ปีนี้ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากที่ผ่านมา ” นายอารักษ์กล่าว