นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) (FSS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เปิดเผยว่า ผลการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ต่อนักลงทุนที่เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และหาดใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา ปรากฎว่าผลการตอบรับจากนักลงทุนออกมาดีมาก เนื่องจากธุรกิจของ TAE มีความแข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่นอย่างมาก โดย TAE เป็นหนึ่งในผู้นำในการผลิตและจำหน่ายเอทานอลที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสามารถผลิตเอทานอลที่มีคุณภาพสูงและได้รับการยอมรับจากผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของประเทศไม่ว่าจะเป็น PTT, BCP, ESSO, IRPC, TOP ประกอบกับมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากแรงสนับสนุนการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ของภาครัฐ นอกจากนี้ ผลประกอบการ Q1/57 ก็มีการเติบโตที่โดดเด่นทั้งด้านรายได้และกำไรสุทธิ ซึ่งเชื่อว่าผลจากการทำโรดโชว์จะทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลการประกอบธุรกิจและข้อมูลฐานะการเงินของบริษัทฯ อย่างครบถ้วน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่มีต่อ TAE มากยิ่งขึ้น และทำให้มั่นใจได้ว่าการเสนอขายหุ้นของบริษัทในครั้งนี้จะมีนักลงทุนสนใจจองซื้อหุ้นอย่างคึกคัก โดยเราจะเปิดให้จองซื้อหุ้นตามแผนที่กำหนดไว้ คือ เปิดให้ผู้ถือหุ้นสามัญของ LANNA จองซื้อระหว่างวันที่ 21-23 พ.ค. และประชาชนจองซื้อระหว่างวันที่ 28-30 พ.ค. พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ประมาณวันที่ 5 มิ.ย. นี้ ถึงแม้จะมีการประกาศกฎอัยการศึก แต่มองในมุมบวกเพราะเป็นการส่งสัญญาณทางออกของปัญหาทางการเมืองให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น เชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในระยะสั้นเท่านั้น
นายสมชาย โล่ห์วิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ (TAE) กล่าวถึงผลการโรดโชว์ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยเข้าร่วมรับฟังข้อมูลอย่างคึกคัก สะท้อนว่านักลงทุนให้ความสนใจในธุรกิจที่บริษัทดำเนินการอยู่ อีกทั้งเชื่อมั่นปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ และมองเห็นถึงศักยภาพของบริษัทที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต ทำให้มั่นใจว่าการเสนอขายหุ้นของบริษัทในครั้งนี้จะได้กระแสการตอบรับจากนักลงทุนจะเป็นไปอย่างคึกคักเช่นกัน
“ผลจากการโรดโชว์ต่อนักลงทุนทั้ง 3 แห่ง ถือว่าประสบความสำเร็จเพราะกระแสการตอบรับจากนักลงทุนถือว่าดีมาก โดยให้ความสนใจสอบถามข้อมูลในด้านต่างๆ ของ TAE อย่างละเอียด ทำให้นักลงทุนมีความเข้าใจในธุรกิจของ TAE และมีความเชื่อมั่นต่ออนาคตของบริษัทมากยิ่งขึ้นด้วยเหตุนี้จึงทำให้มั่นใจว่าในวันที่เปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญของบริษัทจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน ” นายสมชาย กล่าว
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2557 บริษัทฯ มีรายได้รวม 631.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 406.60 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโตถึงร้อยละ 55.34 ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 102.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 40.76 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตที่สูงถึงร้อยละ 150.79 ในขณะที่ปี 2556 ทั้งปี บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 117.68 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทฯ ใช้กำลังการผลิตถึงร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตรวม จากปี 2556 ที่การใช้กำลังการผลิตเพียงร้อยละ 55.58 ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนสำคัญมาจากการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งเป็นจุดเด่นหลักของเรา ส่วนความไม่ชัดเจนทางการเมืองที่ผ่านมา มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลต่อภาพรวมตลาดทุน เนื่องจากนักลงทุนได้รับรู้ปัญหาดังกล่าวมาเป็นเวลานานและยิ่งเป็นโอกาสให้บริษัทฯ ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง TAE เป็นทางเลือกที่ดีในการลงทุน