ประเทศไทยโฉมใหม่ ฝึกเด็กปลอดโกง กทม.จับมือนิด้าใช้กลยุทธ์ CAMPAIGN FOR CHANGE สานต่อโครงการ“โตไปไม่โกง ปีที่ 4”

อังคาร ๐๓ มิถุนายน ๒๐๑๔ ๑๓:๔๐
กรุงเทพมหานครจับมือศูนย์สาธารณประโยชน์และประชาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และมูลนิธิองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย เดินหน้าโครงการโตไปไม่โกง รณรงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลง CAMPAIGN FOR CHANGE กับ 100 โรงเรียนทั่วกรุงเทพตลอดปี 2557 หวังเป็นกลไกสำคัญแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น เดินหน้าโครงการสู่ปีที่ 4 หลักสูตรสมบูรณ์ครบระดับชั้น ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย เตรียมจัดงานยิ่งใหญ่ Youth Power รวมพลังเยาวชน“โตไปไม่โกง” ขยายหลักสูตรปลูกฝังจิตสำนึกการเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ คาดมีการเผยแพร่หลักสูตรสู่เยาวชน กว่า 300,000 คน เตรียมเข้าสู่การปฏิรูปประเทศไทยยุคใหม่

รศ.ดร.ผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา หลักสูตรโตไปไม่โกงได้ทำการอบรมครูระดับอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครไปแล้วกว่า 5,000 คน ซึ่งได้เผยแพร่ในโรงเรียนแล้ว รวมทั้งสิ้น 438 โรงเรียน ในปีนี้ได้มีการขยายหลักสูตรไปจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยมีรูปแบบการฝึกอบรมนั้น นอกจากการอบรมครู อาจารย์แล้ว ยังได้คัดเลือก 9 โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครเข้าร่วมกิจกรรมในปีนี้ โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนกว่า 600 คน ได้ทำกิจกรรม เพื่อให้ได้รับประสบการณ์โดยตรงเอง และสามารถนำค่านิยม 5 ประการ ได้แก่ ความซื่อสัตย์สุจริต ความเป็นธรรมทางสังคม การมีจิตสาธารณะ กระทำอย่างรับผิดชอบ และเป็นอยู่อย่างพอเพียง ที่ได้เรียนรู้นำมาสื่อสารต่อได้ รวมถึงได้ขยายเครือข่ายไปยังครูโรงเรียนในเครือสภาการศึกษาคาทอลิก จำนวน 1,300 คน รวมทั้งครู โรงเรียนต่างๆจากสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โรงเรียนในสังกัดตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอื่นๆเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ดร.จุรี วิจิตรวาทการ ประธานศูนย์สาธารณประโยชน์และประชาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ในฐานะ ประธานคณะกรรมการร่างหลักสูตรโตไปไม่โกง กล่าวว่า สำหรับในปีนี้โครงการโตไปไม่โกง ได้ขยายโครงการจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จึงมีการจัดกิจกรรมDay Campให้กับเด็กนักเรียนมัธยมปลายสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 9 แห่ง 600 คน เพื่อปลูกฝังค่านิยม 5 ประการ ใช้กลยุทธ์ให้เด็กทำกิจกรรมด้วยตนเอง มีวิทยากรให้ความรู้ในเรื่องการประกอบการเพื่อสังคม (Social Enterprise) การรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลง (Campaign for Change) และ การบริการสังคม (Social Engagement) โดยจะมีกิจกรรมฝึกการแสดง การทำภาพยนตร์ เพื่อให้เด็กนำการเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ มาออกแบบเป็นโครงการ “โตไปไม่โกง” และส่งผลงานเข้าประกวดเพื่อชิงทุนการศึกษา

ทั้งนี้การดำเนินกลยุทธ์แบบ Campaign for Change คือสร้างโรงเรียนสีขาวเพิ่มขึ้น อีก 100 โรงเรียนตลอดปี 2557 โดยผลักดันหลักสูตรโตไปไม่โกง เข้าสู่เยาวชนโดยตรงด้วยกิจกรรมที่สอนให้เยาวชนเป็นคนดีไม่เพิกเฉยต่อการทำดี ต้องรู้จักปรับเปลี่ยน ต้องเริ่มที่ตัวเองเป็นอันดับแรก ขยายต่อไปยังครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคมและประเทศ เพราะเด็กเป็นกลุ่มที่พร้อมจะเปลี่ยน หากได้รับทราบความรู้ที่ถูกต้อง ดังนั้นเด็กจึงเป็นความหวังของสังคมที่จะทำให้ประเทศไทยไร้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น โดยจะจัดให้มีการรวมพลังเยาวชนโตไปไม่โกง ภายใต้ชื่อ Youth Power มีผู้แทนนักเรียนจาก 100 โรงเรียนในกรุงเทพมหานคร จะเข้าร่วมพิธีปฏิญาณโตไปไม่โกง เพื่อนำกลยุทธ์และหลักสูตรไปรณรงค์ในโรงเรียน ซึ่งงานดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 27 มิถุนายน 2557 ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ นอกจากนี้ยังมีการคัดเลือกสื่อมวลชน องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และบุคคลผู้เป็นต้นแบบสังคมของการทำความดี เพื่อเข้ารับรางวัล THE LEADER ผู้นำคนดีเป็นปีแรกอีกด้วย

ประธานศูนย์สาธารณประโยชน์และประชาสังคม กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการ ทางศูนย์ฯ ได้มีการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง โรงเรียนที่เข้ารับการอบรมมีการบรรจุหลักสูตรนี้เข้าในโปรแกรมการเรียนการสอนแล้ว 100% ดำเนินการในลักษณะบูรณาการร่วมกับสาระวิชาของหลักสูตรที่สอนอยู่แล้ว และกิจกรรมพิเศษของโรงเรียน โดยในส่วนของเนื้อหาหลักสูตรและคู่มือที่ใช้สอนนักเรียน เข้าใจง่ายและมีเนื้อหาที่เหมาะสมกับนักเรียน และสภาพสังคมปัจจุบันส่งผลให้เด็กนักเรียนจำนวนมากเริ่มมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เคารพกฎกติกาและระเบียบวินัยของโรงเรียนเพิ่มขึ้น รู้จักประหยัดและเห็นคุณค่าของสมบัติสาธารณะ

“ เป้าหมายสูงสุดของหลักสูตรโตไปไม่โกง คือการทำให้เด็กไทยซึ่งเป็นกำลังของชาติในอนาคตได้มีภูมิคุ้มกันต่อต้านคอร์รัปชั่น มนุษย์ทุกคนมีจิตสำนึกในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมอยู่ภายในจิตใจ ซึ่งเป็นตัวตัดสินความผิดชอบชั่วดี ดังนั้นเราจึงควรปลูกฝังเรื่องนี้ให้กับเด็กตั้งแต่เล็กเหมือนการฉีดวัคซีน เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันต่อความไม่ดีทั้งหลายที่เกิดขึ้นในชีวิตและสังคม ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการไม่มีจิตสำนึกในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม การไม่รู้จักพอเพียง การไม่รู้จักการใช้ชีวิตอย่างพอประมาณ และการไม่มีสติในการดำรงชีวิต ”ดร.จุรี กล่าวในที่สุด

คุณคมภิญญ์ เข็มกำเนิด ผู้กำกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นบริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับหลักสูตรโตไปไม่โกงปีที่ 4 นี้ มีการผลิตสื่อโฆษณา ชื่อชุด 5 พลังความดี มีแนวคิดมากจากค่านิยม 5 ประการ คือความซื่อสัตย์สุจริต ความเป็นธรรมทางสังคม การมีจิตสาธารณะ กระทำอย่างรับผิดชอบ และเป็นอยู่อย่างพอเพียง ที่เป็นหัวใจหลักของหลักสูตรโตไปไม่โกง โฆษณาชุดนี้ที่มีความโดดเด่นในด้านการใช้แอนิเมชั่นสร้างตัวการ์ตูนที่สื่อถึงพลังทั้ง 5 ประกอบกับบทเพลงที่สอดคล้องกับเรื่องราวโตไปไม่โกง ซึ่งภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว และเป็นวิธีการหนึ่งที่จะกระตุ้นจิตสำนึกให้เด็กสามารถซึมซับและเรียนรู้การที่จะเป็นพลเมืองดีของประเทศ และสามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้อย่างรวดเร็ว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ