ซึ่ง คุณอวิกา ได้พูดถึงที่มาของกิจกรรมดังกล่าวว่า “ความตั้งใจในการจัดกิจกรรมนี้เราอยากให้น้องๆ ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะเราเชื่อว่าหนังเป็นอีกสื่อบันเทิงที่จะทำให้น้องๆ และทุกคนได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมา ความยากลำบาก กว่าจะมีแผ่นดินไทยให้เราอยู่กันอย่างทุกวันนี้ รวมทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนได้ระลึกถึงความเสียสละของบรรพบุรุษในแผ่นดินไทย การเรียนรู้และสัมผัสประวัติศาสตร์ในสถานที่จริง ทางบริษัทฯ จึงได้จัดกิจกรรมพาน้องสัมผัสประวัติศาสตร์มหาตำนานแห่งแผ่นดินนี้ขึ้น ทั้งชมภาพยนตร์ ศึกษาประวัติศาสตร์ และสนุกสนานกับของเล่น และการให้อาหารช้างสัตว์ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของประเทศไทยด้วย”
ซึ่งผู้พันเบิร์ดได้เล่นเกมส์แจกของที่ระลึก และร่วมชมภาพยนตร์กับน้องๆ จากมูลนิธิมหาราช, แฟนๆ จากเฟสบุ๊คของสหมงคลฟิล์ม และอาสาสมัครใจดีที่มาร่วมกิจกรรม ณ. โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต หลังจากนั้นจึงเดินทางไปจังหวัดอยุธยา ไกด์ของเราก็ไม่พลาดที่จะพาน้องๆ และอาสาสมัครร่วมเดินทางย้อนรอยประวัติศาสตร์ไทย พร้อมบอกเล่าถึงที่มาของสถานที่ต่างๆ โดยที่แรกคือ วัดใหญ่ไชยมงคล สถานที่ๆ เป็นเหมือนการแสดงถึงชัยชนะและการเป็นเอกราชของเราชาวไทย และไปที่เจดีย์ภูเขาทอง ซึ่งมีพระบรมราชานุเสาวรีย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงม้า อยู่กลางทุ่งภูเขาทอง ผู้พันเบิร์ดได้พาน้องๆ อาสาสมัคร และสื่อมวลชนเดินชม พร้อมบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของพระนเรศวรฯ สร้างความรู้ ความสนุกสนาน และความตื่นเต้น ให้กับน้องๆ ที่เดินชมรูปภาพ และประวัติศาสตร์ชาติไทยเป็นอย่างมาก และปิดท้ายด้วยกิจกรรมที่ชวนให้น้องๆ เพลิดเพลินยิ่งขึ้น กับการพาชมของเล่นทั้งจากในอดีต และปัจจุบันในพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์ และที่สำคัญที่สุดการชมโชว์พิเศษของช้าง และให้อาหารช้างที่เพนียดคลองช้างเลยทีเดียว ซึ่งในทุกกิจกรรมได้มีการถ่ายภาพร่วมกันเพื่อความทรงจำ และความประทับใจสุดแสนพิเศษ ซึ่งผู้พันเบิร์ดได้กล่าวว่า
“ผมรู้สึกดีใจ และสนุกสนานมากที่ได้มีโอกาสพาน้องๆ มาชมภาพยนตร์ ซึ่งก่อนชมผมได้บอกเล่าเรื่องราวของหนังที่ผ่านมาเพื่อเป็นการเสริมในส่วนของหนัง และประวัติศาสตร์ของไทยเราให้น้องๆ ทราบก่อน ซึ่งเขาตั้งใจฟังมาก พอออกมาผมถามคำถามน้องๆ ทุกคนดูตื่นเต้น และจำตัวละครต่างๆ ในภาพยนตร์ได้ และผมก็พาเขามาเที่ยวจังหวัดอยุธยา ชมประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นสถานที่ๆ เป็นต้นกำเนิดของภาพยนตร์เรื่องนี้ อย่างวัดใหญ่ไชยมงคลเป็นที่ประกาศชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเจดีย์ภูเขาทองสถานที่ๆมีพระบรมราชานุเสาวรีย์ของสมเด็จพระนเรศวรที่ท่านทรงม้าอยู่ พร้อมเดินชมรอบๆ ซึ่งจะมีรูปของท่านในภารกิจต่างๆ ซึ่งในขณะที่ผมเล่าที่มาประวัติให้น้องๆทราบในแต่ละรูป น้องบางคนจำได้ด้วย อย่างฉากที่ท่านทรงยุทธหัตถี หรือฉากที่พระนเรศฯ ฝันเห็นกุมภี น้องๆ ก็จำได้ว่าเราเพิ่งดูจากในหนังมาเองซึ่งผมรู้สึกประทับใจมาก นอกจากพาชมประวัติศาสตร์แล้วเราก็มีกิจกรรมที่ให้น้องเพลิดเพลินใจด้วยกับการพาชมของเล่นที่พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น และได้พบกับช้างตัวจริง ได้ให้อาหารและเล่นกับช้างด้วย น้องๆ ที่มาร่วมกิจกรรมน่ารักมาก และให้ความสนใจในสิ่งที่เราทำเพื่อเค้า และได้สัมผัสประสบการณ์จริงครบทุกรสในกิจกรรมครั้งนี้ ผมเชื่อว่าภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี เป็นภาพยนตร์ที่เป็นสมบัติของทุกคน และเป็นกำลังใจและให้ข้อคิดกับทุกคนได้ หลังจากนี้หากใครที่เจอเรื่องที่ท้อแท้ใจ หรือเหน็ดเหนื่อยลองมาชมภาพยนตร์เรื่องนี้เราจะได้มีกำลังใจมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าเทียบกับสมัยก่อนบรรพบุรุษของเราทำทุกอย่างเพื่อปกป้องประเทศชาติให้เราอย่างแสนสาหัสจนเป็นประเทศไทยในวันนี้”