นายสมชาย โล่ห์วิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TAE ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลที่มีความบริสุทธิ์ 99.5% โดยปริมาตร เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงได้กล่าวถึงการเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค ของหุ้น TAE ในวันแรกว่า รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่หุ้นของบริษัทฯ สามารถปิดการซื้อขายในวันแรกที่ 5.60 บาทต่อหุ้น ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาจองที่ 2 บาทต่อหุ้น ถึงร้อยละ 180 และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทฯ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเชื่อว่านักลงทุนที่ตัดสินใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทนั้น เล็งเห็นถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเอทานอล รายใหญ่ 1 ใน 3 ของประเทศ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยร้อยละ 30 ต่อปี และในปี 2557 คาดว่ารายได้จะเติบโตร้อยละ 30 เช่นเดียวกัน
“ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่ดีเยี่ยมในวันนี้ การที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น อย่างโดดเด่น สะท้อนได้ว่านักลงทุนต่างให้ความสนใจในธุรกิจและเข้าใจถึงปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯรวมถึงศักยภาพการเติบโตของบริษัทในอนาคต โดยบริษัทจะนำเงินระดมทุนที่ได้ในครั้งนี้จำนวน 400 ล้านบาทไปใช้ในการลงทุนก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซชีวภาพสำหรับใช้ภายในโรงงานผลิตเอทานอล ของบริษัทจำนวน 120 ล้านบาท ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินจำนวน 200 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน” นายสมชาย กล่าว
ด้านนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของ TAE เปิดเผยว่า การที่หุ้น TAE ได้รับการตอบรับอย่างสูงจากนักลงทุนและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน มีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ รวมถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในอนาคต ประกอบกับการที่ผลประกอบการ Q1/57 ของบริษัทมีการเติบโตที่โดดเด่นทั้งด้านรายได้และกำไรสุทธิ โดยมีกำไรสุทธิ 102.20 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2556 ทั้งปี บริษัทมีกำไรสุทธิ 117.68 ล้านบาท จะยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากนี้แล้ว การระดมทุนในครั้งนี้ รวมถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้ TAE มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง สามารถลดต้นทุนการผลิตและต้นทุนทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังทำให้บริษัทมีช่องทางหรือทางเลือกในการระดมทุนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อการขยายธุรกิจของ TAE ในอนาคตอีกด้วย ทั้งนี้ การปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 180 จากราคาจอง ที่ 2 บาท ถือว่าเป็นการปรับเพิ่มอย่างโดดเด่น และต้องถือว่าสภาวะของตลาดหุ้นไทยในตอนนี้มีปัจจัยเชิงบวกหลายด้านมาสนับสนุน จึงเป็นปัจจัยที่ช่วยทำให้การซื้อขายหุ้นในวันนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง
“ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายละรับประกันการจำหน่าย ผมต้องขอบคุณนักลงทุน ที่เข้ามาซื้อขายหุ้น TAE อย่างคึกคัก จนส่งผลให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 180 จากราคาไอพีโอ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเข้าใจและเชื่อมั่นในพื้นฐานของบริษัท เพราะ นอกจาก TAE จะเป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตและจำหน่ายเอทานอล ที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสามารถผลิตเอทานอลที่มีคุณภาพสูง และได้รับการยอมรับจากผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของประเทศ ประกอบกับมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากแรงสนับสนุนการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ของภาครัฐ โดยผลประกอบการ Q1/57 ก็สะท้อนให้เห็นความสามารถในการเติบโตของรายได้ถึงร้อยละ 55.34% และกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นโดดเด่นถึง 150.76% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สิ่งสำคัญ คือ การระดมทุนของบริษัทในครั้งนี้ยิ่งจะช่วยทำให้บริษัทฯ สามารถลดต้นทุนการผลิต และต้นทุนทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญทำให้ TAE กลายเป็นหลักทรัพย์อีกหนึ่งบริษัทฯ ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน” นายสมภพกล่าว
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TAE เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2557 เปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 4.80 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 140 จากราคาจอง 2 บาท/หุ้น ก่อนจะปรับขึ้นมาทำราคาสูงสุดของวันที่ 5.80 บาท/หุ้น หรือร้อยละ 190 และปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 5.60 บาท/หุ้น ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาจอง IPO ร้อยละ 180 โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 5,684.02 ล้านบาท