นางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป.กล่าวว่า การจัดงาน“ฝ้ายทอใจ ครั้งที่ 7”ภายใต้แนวคิด “วิถีล้ำนำสมัยกับฝ้ายไทย”มีวัตถุประสงค์เพื่อสนองพระราชประสงค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยงานฝ้ายทอใจ ส่งเสริมงานผ้าฝ้ายศิลปาชีพฯ ให้เป็นที่ยอมรับของตลาด ดังจะเห็นได้ว่าการจัดงานฝ้ายทอใจครั้งที่ 6 ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผ้าฝ้ายของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพฯ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งประชาชน นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ โดยมี “คาร่า พลสิทธิ์” ดารานางแบบร่วมสมัยมาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ร่วมประชาสัมพันธ์โครงการ และสร้างกระแสการรับรู้ให้ผ้าฝ้ายทอมือรู้จักเป็นที่แพร่หลาย รณรงค์ให้คนหันมาสนใจใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยสรุปปีที่แล้วมีผู้ร่วมงานเกือบ 9,000 คน และมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
“สำหรับการจัดงาน“ฝ้ายทอใจ ครั้งที่ 7”ปีนี้ ได้ผสมผสานผลิตภัณฑ์ดั้งเดิม ร่วมกับแนวคิดยุคใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นแรงจูงใจค่านิยมใหม่ๆ เกิดขึ้น โดยไฮไลท์ภายในงานที่น่าสนใจ คือ การแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าฝ้ายทอมือในคอลเลคชั่น “Heart to Life” เป็นผลงานจากสถาบันการออกแบบแฟชั่นชั้นนำของเมืองไทยถึง 4 สถาบัน คือ กาลวิน รัฟเฟิล (Raffles) ตักส์ศิลา และบางกอก เอฟ เอ (Bangkok F.A.) มาร่วมออกแบบดีไซน์ของใช้ และเครื่องแต่งกายที่ผลิตขึ้นจากผ้าฝ้ายทอมือ ซึ่งล้วนเป็นผลงานการดีไซน์จากคนรุ่นใหม่ทั้งสิ้น อีกทั้ง ยังได้ร่วมกับภาควิชาออกแบบภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มาร่วมทำการออกแบบตกแต่งห้องพักจำลอง (Mock-up room) โดยมีการนำผ้าฝ้ายทอมือศิลปาชีพลายพิเศษนำมาใช้ในการตกแต่ง ภายใต้แนวคิด Thai Cotton in Modern Living” และกิจกรรม D.I.Y (Do it yourself) งานฝีมือสร้างสรรค์ของใช้ด้วยผ้าฝ้าย โดยจักรเย็บผ้า จาโนเม่ พร้อมด้วยกิจกรรมการจัดอบรมพิเศษ เรื่องการแต่งกายกับบุคลิกภาพ โดยมีอดีตนางแบบสาวชั้นแนวหน้าของเมืองไทย “คาร่า พลสิทธิ์” มาให้เคล็ดลับดีๆ และเป็นพรีเซ็นเตอร์ของงานฝ้ายทอใจในปีนี้ด้วย”
นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการผ้าที่น่าสนใจ เช่น นิทรรศการผ้าลายนาค (นิทรรศการวัฒนธรรมร่วมชนชาติผ่านลวดลายบนผืนผ้าเอกลักษณ์และความเชื่อเกี่ยวกับนาค) กว่า 200 ชิ้น จากพิพิธภัณฑ์ อ.เผ่าทอง ทองเจือ นิทรรศการผ้ารักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Craft) และนิทรรศการเอกลักษณ์และศิลปะแห่งลวดลายผ้าชาวเขา (ในเส้นทางศิลปาชีพ) อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าฝ้าย เช่น เครื่องประดับ กระเป๋า เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ จากร้านค้าที่เข้าร่วมจัดแสดงภายในงานนี้กว่า 100 คูหา ซึ่งในปีนี้ ศ.ศ.ป.คาดว่าจะมีผู้ร่วมชมงานไม่น้อยกว่า 10,000 คน เงินสะพัดไม่น้อยกว่า 12 ล้านบาท โดยหวังว่าความสำเร็จจากการจัดงานฝ้ายทอใจ จะเป็น
จุดเริ่มต้นของพัฒนาการงานศิลปาชีพและผู้ประกอบการงานศิลปหัตถกรรมไทย ก้าวไปสู่การพัฒนาด้านศักยภาพ สร้างโอกาสขยายลู่ทาง และกระตุ้นให้เกิดการรณรงค์เอกลักษณ์ของชาติ พร้อมทั้งจะหาช่องทางตลาดใหม่ๆ ให้กับเกษตรกรและตลาดใหญ่ของผ้าฝ้ายทอมือ คือ ตลาดกลุ่ม Hospitality ได้แก่ กลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร ที่พักอาศัย ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพมาก หากปัจจัยดังกล่าวเป็นที่ยอมรับ ศ.ศ.ป. มั่นใจว่างานหัตถกรรมจะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน ส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว และในปีหน้าก็จะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เรามั่นใจว่างานหัตถกรรมทำมือของไทยจะเป็นที่ยอมรับของตลาดโลกในอนาคตยิ่งๆ ขึ้นไป
สำหรับผู้สนใจ “งานฝ้ายทอใจ ครั้งที่ 7” เชิญชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ผลงานดีไซน์ผ้าทอมือโดย 4 สถาบันชั้นนำของไทย การแสดงต่างๆ พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากผ้า และร้านจำหน่ายผ้าฝ้ายทอมือศิลปาชีพฯ พิมพ์ลายคอลเลคชั่น 5 ลายสีสวย สดใส ที่มีจำหน่ายเฉพาะในงานนี้เท่านั้น โดยงานมีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12 -15 มิถุนายน 2557 เวลา 09.00-18.00 น. ณ อาคารศาลาพระมิ่งมงคล ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-736-7440 หรือติดตามได้ที่ http ://www.facebook.com/thaicottonfair สามารถรับชมบรรยากาศงานได้ที่ www.YouTube.com/ฝ้ายทอใจ