-ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซจะมีส่วนร่วมผลักดันปริมาณการค้าทั้งหมดให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ในตลาดเกิดใหม่ภายในปี 2025
-เจอร์เกน เกอร์เดส ซีอีโอด้าน Post - eCommerce - Parcel กล่าวว่า "การค้าปลีกทั่วโลกมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอลในฐานะผู้ให้บริการลอจิสติกส์ชั้นนำ เป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว"
การค้าปลีกบนระบบออนไลน์ทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้ว และในตลาดเกิดใหม่จะมีความสำคัญเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ตลอดระยะเวลาอีก 10 ปีข้างหน้า โดยลอจิสติกส์จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนบริษัทต่างๆ ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นทั้งทางด้านการจัดส่งสินค้าภายในไม่กี่ชั่วโมงในวันที่มีการสั่งซื้อสินค้า การมีเวลารับและส่งคืนสินค้าที่ยืดหยุ่น
มากยิ่งขึ้น การพัฒนาระบบลอจิสติกส์ให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัว และการเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้า
และบริการ
ข้อมูลข้างต้นนี้ คือ หนึ่งในข้อมูลสำคัญจากผลการศึกษาเรื่อง Global E-Tailing 2025 ที่ดอยช์ โพสต์
ดีเอชแอลได้จัดทำขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับเซด พุ้งท์ (Z_punkt) และซีมอร์ (See More) 2 สุดยอดสถาบันวิจัยเทรนด์สำคัญต่างๆ พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญอีกหลายรายจากวงการค้าปลีก อุตสาหกรรม
ลอจิสติกส์ และสถาบันการศึกษาจากนานาประเทศทั่วโลก นับเป็นการศึกษาจากสถานการณ์จำลองเกี่ยวกับการค้าข้ามพรมแดนบนระบบออนไลน์และผลกระทบที่มีต่ออุตสาหกรรมลอจิสติกส์
เป็นครั้งแรกของโลก
สำหรับรายงานผลการศึกษาดังกล่าวได้ใช้สถานการณ์จำลอง 4 สถานการณ์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์
คุณลักษณะของโลกแห่งการจับจ่ายซื้อหาสินค้าบนระบบออนไลน์ทั่วโลกในอนาคตอันใกล้นี้ผ่านมุมมองของผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจต่างๆ การคาดการณ์อนาคตที่แตกต่างกันทั้ง 4 ลักษณะดังกล่าวนี้ได้ใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลที่สุด ครอบคลุมตั้งแต่ราคาพลังงานและวัตถุดิบเทคโนโลยี ปัจจัยทางการเมืองและสังคม จนถึงการค้าปลีกและพฤติกรรมการบริโภค นอกจากนี้ การศึกษาดังกล่าวยังนำเสนอผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงระบบค่านิยมในสังคมปี 2025 การวิเคราะห์เจาะลึกตลาดประเทศที่พัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่บางประเทศทั่วโลก การศึกษาเทรนด์ลอจิสติกส์และเทรนด์การจับจ่ายใน 12 เมืองชั้นนำของโลก อาทิ นิวยอร์ก มอสโคว์ บังกาลอร์ จาการ์ตา และลากอส โดยข้อมูลผู้บริโภคดังกล่าวได้นำมาใช้ประกอบการจัดทำสถานการณ์จำลองเพื่อให้มี
ความสมจริงและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมีสัดส่วนร้อยละ 8 ของปริมาณการค้าทั้งหมดในตลาดยุโรป และจากสถานการณ์จำลองที่ได้จัดทำขึ้น คาดว่า ตัวเลขดังกล่าวน่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 40 ในประเทศที่พัฒนาแล้ว และร้อยละ 30 ในตลาดเกิดใหม่ ด้านเจอร์เกน เกอร์เดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้าน
Post - eCommerce -Parcel ดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล เปิดเผยว่า "ในอนาคต ธุรกิจลอจิสติกส์จะมีบทบาทในการสนับสนุนและขับเคลื่อนผู้ค้าบนระบบออนไลน์มากยิ่งกว่าที่เคยมีมาในปัจจุบัน ในฐานะบริษัทลอจิสติกส์ ดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอลจึงมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแขนงต่างๆ ในเกือบทุกประเทศทั่วโลก และพร้อมเป็นที่ปรึกษาและพันธมิตรในการสร้างความสำเร็จให้แก่ธุรกิจต่าง ๆ"
จากวัฒนธรรมองค์กรแบบดิจิตอลที่มีการพัฒนาอย่างเต็มที่สู่ระบบการทำด้วยตนเอง DIY
ในสถานการณ์จำลองที่ 1 ตลาดเกิดใหม่ในปัจจุบันจะเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตนับจากนี้ต่อไป
อีก 11 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่งผนวกกับประชากรชนชั้นกลางที่มีสถานะมั่นคงจะสนับสนุน
ระบบการทำธุรกิจได้ทุกที่ (Everywhere Commerce) สถานการณ์จำลองที่ 2 บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคจะได้รับสินค้าที่สั่งซื้อได้เร็วกว่าปัจจุบัน ด้วยระบบขนส่งด่วนจะทำให้การส่งสินค้าถึงมือผู้รับในเวลาไม่เกิน
24 ชั่วโมง โดยมีความรวดเร็วเพียงไม่กี่นาที สำหรับสถานการณ์จำลองที่ 3 มุ่งเน้นกล่าวถึงการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรแบบดิจิตอลที่มีการซื้อขายสินค้าบนระบบออนไลน์ โดยมีการใช้ซอฟท์แวร์อวาตาร์ (avatars) ที่เป็นเสมือนที่ปรึกษาด้านการช้อปปิ้งแบบเวอร์ช่วลเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนผู้บริโภค นอกจากนี้ บริษัทลอจิสติกส์มุ่งเน้นให้บริการซัพพลายเชนที่มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดีเพื่อช่วยผู้ผลิตป้องกันการปลอมแปลงต่าง ๆ
ผลการศึกษาดังกล่าวนอกจากจะระบุถึงทิศทางธุรกิจค้าปลีกแบบอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกในเชิงบวก
ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแล้ว ยังนำเสนอสภาวะวิกฤติที่น่าจะเกิดขึ้นอีกด้วย โดยได้จัดทำสถานการณ์จำลองที่ 4 เกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการบริโภคทั่วโลกในกรณีที่เศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงิน และราคาของพลังงานและวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งภายใต้สภาวการณ์ดังกล่าว ผู้บริโภค
จะให้ความสำคัญกับสินค้าประเภททำได้ด้วยตนเอง (Do-It-Yourself หรือ DIY) มากขึ้น ทั้งยังใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในรูปแบบการยืมหรือเช่าแทนการซื้อใหม่
พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปส่งผลต่อภาคธุรกิจค้าปลีก
นอกจากการวิเคราะห์สถานการณ์จำลองดังกล่าว ยังมีบทความที่น่าสนใจจากผู้เชี่ยวชาญด้านลอจิสติกส์ชื่อดังหลากหลายราย ได้แก่ ดร.เดิร์ก มอสเช็ตต์จากมหาวิทยาลัยฟรีบูร์ก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ที่กล่าวถึงความจำเป็นของสังคมโดยรวมในการจัดการการไหลเวียนของระบบซัพพลายอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ศาสตราจารย์เกริตต์ ไฮเนอมานน์แห่งมหาวิทยาลัยโลเวอร์ไรน์ ที่ได้แสดงทัศนะ
ในบทความที่เขียนขึ้นเรื่อง "E-Pace" เกี่ยวกับความสำคัญของช่วงเวลาในการสร้างความสำเร็จให้แก่ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ ขณะที่ศาสตราจารย์ชาชิ มัททาแห่งมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สเตท ได้วิเคราะห์
การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ทั้งทางด้านเทรนด์ต่างๆ อาทิ ความยั่งยืน หรือการกำหนดด้วยความต้องการของมวลชน ส่งผลกระทบต่อการค้าปลีกออนไลน์อย่างไร ข้อปฏิบัติที่ดีที่สุดที่ดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล ได้นำเสนอสำหรับธุรกิจค้าปลีกแบบอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วยโซลูชั่นและบริการหลากหลายประเภทที่เกี่ยวกับระบบลอจิสติกส์
ทั้งนี้ สถานการณ์จำลองและบทความสนับสนุนทั้งหมดดังกล่าวมีแนวคิดที่เหมือนกันประการหนึ่ง
คือ การแข่งขันในอุตสาหกรรมค้าปลีกแบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นระดับโลก ประเทศ หรือภูมิภาคจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งเจอร์เกน กล่าวว่า "เราไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า ในปี 2025
โลกจะเป็นอย่างไร แต่การจัดทำสถานการณ์จำลองในรายงานการศึกษาดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า
ภาคธุรกิจค้าปลีกทั้งแบบปกติและออนไลน์ทั่วโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ระบบ
ลอจิสติกส์จะเป็นจุดศูนย์กลางของกระบวนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว"
กลยุทธ์ 2020 ที่ดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอลจัดทำขึ้น ประกอบด้วย 3 เสาหลัก ได้แก่ การมุ่งเน้นให้ความสำคัญ การเชื่อมโยง และการเติบโต กลยุทธ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล
มีความพร้อมในการสนับสนุนการพัฒนาดังกล่าวได้อย่างดีเยี่ยม หนึ่งในเสาหลักภายใต้กลยุทธ์ 2020 คือ การขยายความเป็นผู้นำของดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอลในธุรกิจลอจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
อี-คอมเมิร์ซทั้งในประเทศเยอรมนี ภูมิภาคยุโรป และพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลก และปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ
และจำเป็นสำหรับการขยายการเติบโตดังกล่าว คือ ส่วนงาน Post - eCommerce - Parcel ซึ่งเจอร์เกน เกอร์เดสได้เน้นย้ำว่า "ในฐานะที่เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานในหลากหลายประเทศมากที่สุดในภาคอุตสาหกรรมลอจิสติกส์ ดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอลมุ่งมั่นพัฒนาการทำธุรกิจระหว่างผู้ค้าและผู้บริโภคหรือ B2C ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอี-คอมเมิร์ซในตลาดนอกภูมิภาคยุโรปให้มีประสิทธิภาพและ
ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง พร้อมเล็งเห็นโอกาสที่จะก้าวขึ้นแท่นผู้ให้บริการระบบอี-คอมเมิร์ซ
ลอจิสติกส์ชั้นนำของโลกในอีก 2-3 ปีข้างหน้า"