บลจ.ฟินันซ่าประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศช่วงครึ่งปีหลังไปในทางบวกมากขึ้น จากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามออกจากเคหะสถาน(เคอร์ฟิว) ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หลังจากที่มีการประกาศคำสั่งดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 57 รวมถึงแผนการปฏิรูปด้านต่างๆโดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นด้านเศรษฐกิจ เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ดังนั้น บลจ.ฟินันซ่าคาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) จะคงดอกเบี้ยนโยบาย ในการประชุมวันที่ 18 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ และคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยได้ลดลงถึงจุดที่ต่ำสุดแล้ว และมีความเป็นไปได้ที่จะปรับตัวขึ้นในปี 2558 ตามการคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรฐกิจในปี 2558 ที่คาดว่าอาจมีการขยายตัวมากกว่า 5% ดังนั้นการพักเงินในช่วงอัตราดอกเบี้ยที่มีโอกาสในช่วงขาขึ้น โดยลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ประเภทครบกำหนดอายุโครงการประเภท 3 เดือน และ 6 เดือนตอนนี้ จึงเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
บลจ.ฟินันซ่า จึงออกเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ 3 เดือนและ 6 เดือน ชื่อกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3เดือน4 (FAM FIPR3M4) โดยมีอัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 2.70% ต่อปี และ กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 6เดือน3 (FAM FIPR6M3) โดยมีอัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 2.75% ต่อปี เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 16 - 23 มิถุนายน 57 ซึ่งเป็น กองทุนที่โรลโอเวอร์มาจากการขายกองทุนก่อนหน้านี้ เป็นกองทุน Specific fund
โดยกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3เดือน4 (FAM FIPR3M4) จะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงินและ/หรือ เงินฝากของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD, CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC (Macau), Standard Chartered Bank (Hong Kong), ธนาคาร CIMB Niaga (Indonesia) หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร Union National Bank, UAE(P-1), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB), ตั๋วแลกเงิน บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง(BBB+), ตั๋วแลกเงิน บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (BBB+), บจ.บีเอสแอล ลีสซิ่ง(BBB) หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB ขึ้นไป, ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น
กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 6เดือน3 (FAM FIPR6M3) จะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงินและ/หรือ เงินฝากของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD, CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC (Macau), Standard Chartered Bank (Hong Kong), ธนาคาร CIMB Niaga (Indonesia) หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร Union National Bank, UAE(P-1), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB), ตั๋วแลกเงิน บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง(BBB+), บมจ.เอสซี แอส เสท คอร์ปอเรชั่น (BBB+), ตั๋วแลกเงิน บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (BBB+), บจ.บีเอสแอล ลีสซิ่ง(BBB) หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB ขึ้นไป, ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น