โดยที่ผ่านมามีตัวแทนผู้ใช้ไฟฟ้าได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กกพ. ยื่นความจำนงต้องการให้มีการคืนดอกผลที่เกิดขึ้นจากเงินค้ำประกันไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อย เช่นเดียวกับที่ได้คืนดอกผลให้กับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ โดยเห็นว่า ค่าค้ำประกันดังกล่าวสามารถสร้างดอกผลให้กับการไฟฟ้า ดังนั้น จึงไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภคที่ใช้ไฟฟ้าที่ควรจะได้ผลประโยชน์จากดอกผลดังกล่าว
ซึ่ง กกพ.ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ดอกผลของเงินประกันการใช้ไฟฟ้าผู้ใช้ไฟฟ้านำไปวางไว้กับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายนั้น เป็นดอกผลที่ผู้ใช้ไฟฟ้าพึงได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภคด้านพลังงาน กกพ.จึงได้มีมติให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายทั้งสอง จ่ายคืนดอกผลในเงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 โดยต้องพิจารณาในเรื่องของรูปแบบและระยะเวลาการคืนเงินให้สอดคล้องกับจำนวนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าที่วางไว้และดอกผลที่ผู้ใช้ไฟฟ้าจะได้รับคืน ซึ่งการคืนดอกผลดังกล่าวจะต้องอยู่ในเงื่อนไขที่จะไม่มีผลย้อนหลัง สำหรับต้นทุนค่าใช้จ่ายในการคืนดอกผลนั้น กกพ.ได้ให้ทั้ง 2 การไฟฟ้า ไปสรุปค่าบริหารจัดการ และนำกลับมาเสนอ กกพ. เพื่อพิจารณาต่อไป
โดยขณะนี้มีจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยที่มัดจำมิเตอร์ไฟฟ้าทั่วประเทศ จำนวน 17,930,000 ราย ซึ่งมีค่ามัดจำมิเตอร์ไฟฟ้าต่างกันตามขนาดมิเตอร์ อยู่ในระหว่าง 300 – 12,000 บาทต่อราย โดยรูปแบบในการคืนเงินดอกผลดังกล่าว จะเป็นไปในรูปแบบการลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน ซึ่งจะแจ้งลงในใบแจ้งค่าไฟฟ้าให้ประชาชนรับทราบ ทั้งนี้ 2 การไฟฟ้าจะต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนระบบใบแจ้งค่าไฟฟ้าและจะเริ่มดำเนินการคืนเงินได้ตั้งแต่ต้นปี 2558 เป็นต้นไป