เบียร์อาซาฮี ชูความแตกต่าง เปิดศึกเบียร์ไฮซีซั่น ดึงโดม ปกรณ์ ลัม ปิดถนนข้าวสารจัดคอนเสิร์ตใหญ่ปลายต.ค.นี้

กรุงเทพฯ--13 ต.ค.--ซิง รีพับลิค
เบียร์อาซาฮี รุกตลาดเบียร์พรีเมียม ยิ้มร่าปีนี้ยอดทะลุ 350 ล้านบาท ปรับภาพเน้นความแตกต่างสร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง เตรียมจัดเทศกาลดนตรีฉีกแนว Asahi Music Fest: Taste of Synth ดึงโดม ปกรณ์ ลัม ร่วมจัดงานคอนเสิร์ตปิดถนนข้าวสาร เปิดศึกลั่นกรองรบรับไฮซีซั่นเบียร์ปลายปี
ดร.ครรชิต สิงห์สุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีแอนด์เอ ดีสทริบิวชั่น จำกัด ได้กล่าวถึงการรีแบรนด์ดิ้งเบียร์อาซาฮีว่านอกจาเพื่อการรุกตลาดเบียร์พรีเมียมอย่างจริงจัง และเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของเบียร์อาซาฮีที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากเบียร์อื่นๆ อย่างชัดเจน โดยการรีแบรนด์ดิ้งครั้งนี้ได้วางคอนเซ็ปต์แบรนด์ไว้ที่ "คิดในแบบที่แตกต่าง" หรือ "Think Difference" เพื่อสะท้อนถึงบุคลิกที่โดดเด่นและมีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นอย่างสิ้นเชิง โดยใช้กลยุทธ์ 'Color Merketing' ในการสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรซึ่งเป็นการเน้นใช้สีเงินซึ่งเป็นสีจากฉลากและกระป๋องเบียร์ ในการสื่อสารเพื่อสร้างความจดจำในตราผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภค เมื่อผู้บริโภคเห็นสีเงินจะต้องนึกถึงเบียร์อาซาฮี
สำหรับเป้าหมายทางการเติบโตปีนี้ได้วางไว้ที่ 350 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าเมื่อสิ้นปีนี้จะสามารถทำยอดทะลุเป้าไปที่ 370 ล้านบาท เพราะที่ผ่านมาในปีนี้เพียงแค่ 9 เดือนแรกยอดขายของอาซาฮีได้เพิ่มเป็น 300 ล้านบาท เมื่อเทียบกับยอดขายตลอดปี 2547 ที่ผ่านมาทำได้เพียง 180 ล้านนับได้ว่าเพิ่มขึ้นเกินกว่า 100% ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการทำการตลาดอย่างจริงจังในการกระตุ้นให้เกิดการทดลองสินค้า นอกจากนี้ยังได้มีการปรับกลยุทธ์ใหม่คือจะเน้นสร้างภาพลักษณ์และทัศนคติของการใช้ชีวิตที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าพรีเมียมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักอย่างชัดเจนขึ้น ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิด Brand Switching จากเดิมที่เป็นกลุ่มลูกค้าไฮเนเก้นให้หันมาดื่มเบียร์อาซาฮีมากขึ้น สำหรับแผนในขั้นต่อไปจะเน้นทำการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายในหัวเมืองใหญ่เช่น พัทยา เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต ฯลฯ ซึ่งจะใช้หน่วยคอนมานโดจู่โจมรุกกระจายสินค้าไปยังร้านค้าเป้าหมาย รวมถึงจัดกิจกรรมร่วมกับร้านค้าเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย 1,000 ล้านบาทภายในปี 49 หรือคิดเป็น 10% ของตลาดเบียร์พรีเมียมที่มีมูลค่าตลาดโดยรวมประมาณ 82,000 ล้านบาท
ในช่วงสิ้นปีนี้ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของเบียร์แทบทุกค่ายจะมีการลงพื้นที่เพื่อแข่งขันกันอย่างหนักทางอาซาฮีเองก็ได้วางแผนกระตุ้นยอดขายไว้หลายแบบ และย้ำว่าไม่ใช้ Price War เพราะเชื่อมั่นว่าราคาไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกแบรนด์ของกลุ่มลูกค้าพรีเมียม แต่จะเน้นใช้พรีเมียมโปรโมชั่นเป็นหลัก และมีอาซาฮีแอมบาสดอร์สาวสุดเซ็กซี่ช่วยกระตุ้นยอดขายด้วย ส่วนเบียร์การ็เด้นท์ของอาซาฮีในช่วงปลายปีนี้เน้นเจาะ Prime Area อย่างลานเซ็นทรัล เวิลด์พลาซ่า ลานสยามดิสคัพเวอรี่ รวมถึงลานเบียร์อื่นๆ ในกรุงเทพฯ อีก 12 แห่งและในภาคตะวันออกอีกราว 10 แห่ง
สำหรับการสื่อสารการตลาดในการรีแบรนด์ดิ้งครั้งนี้ทางอาซาฮีได้ทุ่มงบประมาณกว่า 150 ล้านบาท และทำการสื่อสารการตลาดภายโดยใช้กลยุทธ์การสื่อสารแบบ Forget The Line คือไม่ได้ยึด Above หรือ Below The Line แต่ใช้สื่อต่างๆ ตามความเหมาะสมและนำมาผสมผสานกันทั้งหมดเพื่อให้เกิดความลงตัว ซึ่งแคมเปญในปีนี้จะมีทั้งโฆษณาทาง โทรทัศน์ วิทยุ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ สื่อกลางแจ้ง สื่อ ณ จุดขาย และครอบคลุมไปถึงการดึงเอากิจกรรมทางการตลาดหรืออีเว้นท์ ขึ้นมาเป็นอาวุธหลักเพื่อสร้างแบรนด์เอ็กซ์พรีเรียลหรือสร้างโอกาสให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์บวกกับการสื่อสารแบบผสมผสานไปกับการใช้สื่อสนับสนุนอื่นๆ
โดยกิจกรรมแรกตอบรับกับคอนเซ็ปท์ คิดในแบบที่แตกต่างนั้น ได้แรงบันดาลใจจากโดม ปกรณ์ ลัม ศิลปินตัวแทนของคนที่มีความคิดในแบบที่แตกต่างสร้างสรรค์ผลงานของตนเป็นที่ยอมรับในหมู่คนที่รักงานดนตรีในแบบซินธิไซท์ ร่วมสร้างสรรค์สูตรผสมรสชาติทางดนตรีในรูปแบบใหม่กับงานเทศกาลดนตรีฉีกกฎ ปิดถนนข้าวสาร 2 วัน คือ 29-30 ตุลาคมนี้ เพื่อจัดงาน Asahi Music Fest: Taste of Synth เป็นการรวมตัวเพื่อนๆ ของ หนุ่มหล่อ โดม ปกรณ์ ลัม ทั้งจากวงโนโลโก้ และ 5 วงอินดี้ดังจากญี่ปุ่นได้แก่ 1.Sega Rock 2.Air Nice Car 3.Relia 4.Gagaaling และ 5.Monkey Majik & Cuzick ที่มาประชันฝีมือกับศิลปินไทยอย่าง วงแบล็คเฮด วงกร๊ฟไรเดอร์ วงพรู และศิลปินวงอินดี้ของไทย รวมแล้วกว่า 70 วง โดยมีการใช้งบประมาณสำหรับกิจกรรมนี้กว่า 10 ล้านบาท
ดร.ครรชิต ยังเสริมว่าไม่เพียงเท่านี้ เบียร์อาซาฮียังเตรียมกิจกรรมที่ตอบรับกับคอนเซ็ปท์ใหม่ พร้อมทั้งได้เตรียมที่จะเชิญตัวแทนกลุ่มคนที่มีแนวคิดในแบบที่แตกต่างเช่นเดียวกับแบรนด์อาซาฮี มาร่วมสร้างสรรค์กิจกรรม แต่จะเป็นใครและกิจกรรมใดนั้น คงต้องติดตามกันตลอดปี 49 ที่จะถึงนี้
พร้อมย้ำว่าแนวโน้มของตลาดเบียร์ยังคงสดใส แม้การแข่งขันจะค่อนข้างรุนแรงภายใต้ภาวะความกดดันจากปัจจัยภายนอก แต่ก็มีผู้บริโภคหันมาดื่มเบียร์มากขึ้นทดแทนการดื่มเหล้าที่มีรสชาติหนัก รุนแรง และมีอาการแฮงค์ในวันรุ่งขึ้น และนับเป็นอีกเหตุผลที่ผู้หญิงหันมาดื่มเบียร์มากขึ้น ส่งผลให้ตลาดเบียร์ยังเป็นตลาดที่น่าสนใจ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
จารุวัลย์ นวาวัตน์ โทร. 01-910-2055
โรจนันท์ สมชิต โทร. 05-811-2101
ยิ่งทิพย์ ตันธนพงศ์พันธ์ โทร. 01-909-6628
สามารถคลิกดูภาพข่าวได้ที่ www.thaipr.net--จบ--