กรมควบคุมโรค สานต่อโครงการบูรณาการนิคมโรคเรื้อนสู่ชุมชนทั่วไป เดินหน้า MOU อีก 2 แห่ง

จันทร์ ๒๓ มิถุนายน ๒๐๑๔ ๑๘:๑๔
กรมควบคุมโรค ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) บูรณาการนิคมโรคเรื้อนสู่ชุมชนทั่วไป เน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของอดีตผู้ป่วยโรคเรื้อนให้ทัดเทียมกับประชาชนทั่วไป

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2557 นายแพทย์อาจินต์ ชลพันธุ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค เปิดเผยภายหลังลงนามบันทึกข้อตกลงบูรณาการนิคมโรคเรื้อนสู่ชุมชนทั่วไป 2 แห่ง ได้แก่ นิคมบ้านกร่าง จ.พิษณุโลก และนิคมฝายแก้ว จ.น่าน “กรมควบคุมโรคเล็งเห็นถึงความสำคัญ และคุณประโยชน์อันเกิดแก่ผู้อาศัยในนิคม อาทิ การเข้าถึงระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ได้รับการยอมรับและบริการจากสังคมอย่างเท่าเทียมเหมือนประชาชนทั่วไป จึงเร่งผลักดันให้การบูรณาการนิคมโรคเรื้อนสู่ชุมชนทั่วไปเป็นไปได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี”

นายแพทย์อาจินต์ กล่าวต่อไปว่า “หัวใจสำคัญของการบูรณาการนิคมโรคเรื้อน คือการสร้างทัศนคติที่ดี ทั้งต่อตัวผู้อาศัยในนิคม และประชาชนในสังคมทั่วไป ซึ่งความเข้าใจอันดีและความร่วมมือกันของประชาชนทั้งสองฝ่าย นับว่าเป็นความสำเร็จที่แท้จริง”

อนึ่ง ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงบูรณาการนิคมโรคเรื้อนสู่ชุมชนทั่วไปในครั้งนี้ ได้มีการมอบป้ายชื่อหมู่บ้านเพื่อเป็นการเปิดหน้าศักราชใหม่แห่งความเท่าเทียม โดย นิมคมบ้านกร่าง เปลี่ยนเป็นชุมชน "บ้านใหม่ราชประชา" และ นิคมฝายแก้ว ชื่อใหม่คือ "บ้านสันพยอมพัฒนา"

ในการนี้ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระ รามสูต ประธานมูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ย้ำความจำเป็นในการเร่งรัดค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ เพื่อป้องกันความพิการ ลดการแพร่ติดต่อของโรคโดยประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการนำผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการรักษาได้ ซึ่งมูลนิธิฯ จะมอบเงินสนับสนุนจำนวน 2,000 บาท ในกรณีที่ผู้ป่วยมารับการรักษาด้วยตนเอง และในกรณีที่มีผู้พามา มูลนิธิฯจะมอบเงินให้กับผู้นำผู้ป่วยมารักษา 1,000 บาท และมอบให้ผู้ป่วยอีก 1,000 บาท “ขอเชิญชวนประชาชนร่วมมือกันทำให้โรคเรื้อนหมดไปจากประเทศไทยอย่างยั่งยืนสมดังพระราชปณิธาน ด้วยการแนะนำให้ผู้ป่วยโรคเรื้อนที่ยังไม่เคยได้รับการรักษารีบมารับการรักษา และขอให้ประชาชนสำรวจตนเอง คนในครอบครัว หรือในชุมชน หากมีอาการน่าสงสัย ผิวหนังเป็นผื่น วงด่าง สีขาวหรือสีแดง มีอาการชา ไม่รู้สึกคัน ไม่เจ็บ เป็นมานาน ใช้ยากินหรือยาทา 3 เดือนแล้วไม่หาย ให้รีบไปพบแพทย์ หากได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคเรื้อน สามารถรักษาฟรีได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ