เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ร่วมกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดกิจกรรมรณรงค์ยุติการใช้แรงงานเด็กโลกขึ้น ณ หอประชุมโรงเรียนปากพนัง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ประกอบการ ผู้ปกครอง และเยาวชนในพื้นที่ ได้ทราบถึงสิทธิการใช้แรงงานและกฎหมายแรงงานที่เกี่ยวข้องต่อการใช้แรงงานเด็ก โดยมีนายศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมกับมีเยาวชนกว่า 20 สถาบันการศึกษาในเข้าร่วมรณรงค์เป็นจำนวนมาก
นายศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวตอนหนึ่งในพิธีเปิดงานวันรณรงค์ต่อต้านการใช้แรงงานเด็กโลก ประจำปี 2557 ว่า ปัญหาการใช้แรงงานเด็กจะพบมากในประเทศที่ยากจน พ่อ แม่ ต้องพาลูกไปช่วยทำงาน ทำให้เด็กไม่มีโอกาสเข้าสู่ระบบโรงเรียนได้ แต่สำหรับในประเทศไทยนั้น ปัญหาการใช้แรงงานเด็กที่เกิดขึ้นมักเกิดกับเด็กต่างด้าว เช่น พม่า เขมร ที่ตามพ่อแม่มาทำงาน หรือ เกิดในประเทศไทย ซึ่งพ่อ แม่ ยากจนจึงต้องให้ลูกไปช่วยทำงาน ส่วนเด็กไทยปัญหาการใช้แรงงานเด็กแม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่ก็จำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันต่อต้านและยุติปัญหาการใช้แรงงานเด็ก ขณะเดียวกันผู้ที่อยู่ในสถานศึกษาทั้งครู อาจารย์ และนักเรียน เมื่อเข้าใจถึงปัญหาการใช้แรงงานเด็กแล้วต้องช่วยกันเฝ้าระวังและยุติ หากพบเห็นว่าที่ใดมีการใช้ หรือ กดขี่แรงงานเด็ก ต้องแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ เพื่อจะได้เข้าไปช่วยเหลือเด็กให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
นายสาคร สาทลาลัย ผู้จัดการโครงการส่งเสริมการคุ้มครองเด็กทำงานเสี่ยงในอุตสาหกรรมการผลิตกุ้งและอาหารทะเล สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย (สวท.) กล่าวว่า สวท.ได้ร่วมกับองค์กรภาคีทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในจังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินโครงการส่งเสริมฯ ในพื้นที่ที่มีบ่อกุ้งและติดชายฝั่งทะเลรวม 38 หมู่บ้าน แบ่งเป็น อ.หัวไทร 2ตำบล 17 หมู่บ้าน และ อ.ปากพนัง 5 ตำบล 21 หมู่บ้าน ซึ่งพบว่าแรงงานเด็กจะมีอายุระหว่าง 10-17 ปีที่อยู่ในวัยเรียน แต่กลับไม่ได้เรียนเพราะปัญหาครอบครัวยากจนและแตกแยก โดย สวท.ได้รับการสนับสนุนจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ เข้าไปให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นที่ เกี่ยวกับปัญหาการใช้แรงงานเด็ก ว่า ไม่ควรให้เด็กเข้าสู่ตลาดแรงงานก่อนวัยอันควร หรือหากพบเด็กเข้าทำงานแล้วก็ต้องให้ได้รับการคุ้มครอง หรือให้ได้รับสวัสดิการตามกฏหมาย และมีสภาพการทำงานที่เหมาะสม รวมถึงให้การสนับสนุนเงินทุนส่งเสริมอาชีพแก่ผู้ปกครองแรงงานเด็กที่มีฐานะยากจน ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจและนำเด็กกลับเข้าสู่ระบบโรงเรียน ซึ่งคงต้องใช้เวลาพอสมควร แต่เชื่อว่าในอนาคตปัญหาแรงงานเด็กในจังหวัดนครศรีธรรมราช จะลดน้อยลง และหมดไป
นายสาคร กล่าวต่ออีกว่า สำหรับกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากแขกและเยาวชนเป็นจำนวนมาก คือ การเดินรณรงค์และการประทับลายมือ เพื่อให้เด็กและเยาวชน รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยกันยับยั้งปัญหาการใช้แรงงานเด็กและการค้ามนุษย์ เชื่อว่าหากทุกฝ่ายช่วยกันปัญหาการใช้แรงงานเด็กอย่างจริงจัง ปัญหาเหล่านี้จะหมดลงได้อย่างแน่นอน