นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า การเกิดไฟป่าพรุควนเคร็ง มักจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายน ของทุกปี เนื่องจากปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ค่อนข้างน้อย ระดับน้ำในป่าพรุมีการระเหยมาก ประกอบกับมีการใช้น้ำทำการเกษตรเพิ่มขึ้น ทำให้ระดับน้ำในป่าพรุลดต่ำลงมากจนแห้ง อีกทั้งสภาพป่าพรุมักจะมีเศษซากอินทรียวัตถุทับถมกันอยู่ จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้เกิดไฟไหม้ป่าได้ง่ายและเกิดไฟไหม้ทุกปี สภาพไฟไหม้ที่เกิดขึ้นมักรุนแรง กินพื้นที่กว้าง และควบคุมยาก เพราะสภาพไฟที่ไหม้ในป่าพรุเป็นลักษณะพิเศษ คือ ไฟกึ่งผิวดิน กึ่งใต้ดิน ที่ส่วนหนึ่งจะไหม้ในแนวระนาบไปตามพื้นผิวป่า เช่นเดียวกับไฟผิวดิน ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งจะไหม้ในแนวดิ่งลึกลงไป การดับไฟจึงยากกว่าไฟไหม้ป่าธรรมดาหลายเท่าตัวเพราะต้องดับทั้งไฟในแนวราบและแนวดิ่ง ซึ่งปัญหานี้กรมป่าไม้ได้ประสานงานกับกรมชลประทานเพื่อช่วยกันตรวจสอบการรักษาระดับน้ำตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งจัดเตรียมกำลังในการลาดตระเวน โดยเฉพาะพื้นที่มูลนิธิชัยพัฒนา และได้จัดทำกล่องลดปริมาณเชื้อเพลิง และทำคลองไส้ไก่บริเวณรอบพื้นที่ดังกล่าวด้วย
ด้านนายชัยกรณ์ เสริมว่า ทั้งนี้ตามแผนงานของกรมป่าไม้ ซึ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทางกรมฯจึงได้จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรเยาวชน รวมใจป้องกันภัยจากไฟป่า เพื่อให้เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักและสำนึกในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งสาเหตุและอันตรายจากไฟป่า และการจัดการไฟป่าอย่างถูกวิธี โดยล่าสุดได้จัดอบรมเยาวชนในพื้นที่เสี่ยงภัยต่อการเกิดไฟป่าที่โรงเรียนวัดท่าลิพง ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งการจัดอบรมดังกล่าวกรมป่าไม้หวังให้เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการป้องกันไฟป่าเกิดทัศนคติที่ถูกต้องต่อปัญหาไฟป่า เลิกจุดไฟเผาไร่และหันมาร่วมมือกันควบคุมไฟป่า ตลอดจนสามารถเป็นแกนนำและสร้างแนวร่วมในการแก้ไขปัญหาไฟป่าในท้องถิ่นที่ตนอาศัยอยู่ได้ หากชาวบ้านมีความจำเป็นต้องเผาวัชพืชในที่ดินทำกิน อยากขอความร่วมมือให้ผู้ที่ครอบครองที่ดินจัดทำแนวกันไฟ และควบคุมไฟไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ โดยสามารถประสานงานกับหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าท้องที่ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อจัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยควบคุมในการดำเนินการ หรือหากพบเห็นไฟไหม้ป่าบริเวณใด อยากขอความร่วมมือกับประชาชนให้ช่วยกันดับไฟโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ไฟขยายเป็นวงกว้าง แต่กรณีเกิดไฟรุนแรงไม่สามารถดับได้ให้รีบแจ้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทันที หรือโทรสายด่วน 1310 กด 3