ดร.ปรีชา กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการพัฒนาบุคลากรของกระทรวงวัฒนธรรมให้มีองค์ความรู้ทางด้านวัฒนธรรมอย่างถ่องแท้ สามารถนำองค์ความรู้มาพัฒนาศิลปวัฒนธรรมอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งสร้างสรรค์ทุนทางวัฒนธรรมในเชิงเศรษฐกิจได้ กระทรวงวัฒนธรรมจึงทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) กับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในการจัดการเรียนการสอนด้านวัฒนธรรมศาสตร์ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ถึงปีงบประมาณ พ.ศ.2562 โดยจัดการเรียนการสอนคณะวัฒนธรรมศาสตร์ เป็น 2 ระดับคือ ระดับมหาบัณฑิต และระดับดุษฎีบัณฑิต ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมจะสนับสนุนบุคลากรเข้าศึกษาในหลักสูตรดังกล่าว จำนวน 3 รุ่น แบ่งเป็นหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวัฒนธรรมศาสตร์ รุ่นละ 5 คน หลักสูตรศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาวัฒนธรรมศาสตร์ รุ่นละ 20 คน แบ่งเป็นข้าราชการในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม รุ่นละ 10 คน และบุคลากรภายนอก รุ่นละ 10 คน โดยกระทรวงวัฒนธรรมจะเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกบุคคลเพื่อเข้ารับการศึกษา พร้อมทั้งมอบทุนการศึกษาเป็นจำนวน 50% จำนวน 10 ทุน ให้แก่ข้าราชการในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรมที่ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาในระดับมหาบัณฑิตประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาจะต้องทำการศึกษาวิจัยตามหัวข้อที่กระทรวงวัฒนธรรมกำหนดและนำมาใช้ในการปฏิบัติงานได้จริง ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ส่งเสริมสนับสนุนให้นำองค์ความรู้ทางการศึกษาวิจัยมาใช้ในการพัฒนาในการปฏิบัติงาน
ในด้าน ดร.ศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้ก่อตั้งคณะวัฒนธรรมศาสตร์ ตั้งแต่ปี 2552 เพื่อผลิตนิสิต นักศึกษาในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยเน้นการศึกษา วิจัย เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความเจริญรุ่งเรือง มาแต่อดีต และมีวิวัฒนาการมาอย่างยาวนาน รวมทั้งศึกษาวิจัยเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมที่จะมีผลกระทบ ต่อสังคมไทยในอนาคต ตลอดจนการเพิ่มพูนองค์ความรู้ในด้านการจัดการวิทยาการสมัยใหม่ เพื่อให้นิสิต นักศึกษานำความรู้ที่ได้รับมาพัฒนาต่อยอดสร้างสรรค์ ก่อให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มศิลปวัฒนธรรม ดังนั้นมหาวิทยาลัยมหาสารคามจึงมีความรู้สึกยินดีที่กระทรวงวัฒนธรรมได้เล็งเห็นความสำคัญของการผลิตบุคลากรทางด้านวัฒนธรรมศาสตร์ และได้อนุเคราะห์ให้ทุนแก่บุคลากรกระทรวงวัฒนธรรมที่จะเข้าศึกษาในคณะวัฒนธรรมศาสตร์ ซึ่งมหาวิทยาลัยมหาสารคามมีความพร้อมที่ผลิต และพัฒนาบุคลากรเพื่อมาช่วยเหลือกระทรวงวัฒนธรรมในการปฏิบัติงานในการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของชาติต่อไป