กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟล็กชิปเอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด1 ในบริษัทกลุ่มเดอะ คิด (The Kid)เปิดเผยว่า “ บริษัทแฟล็กชิป ได้ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ นกแอร์ ผลิตรายการ The Angel นางฟ้าติดปีก ซึ่งเป็นรายการ การแข่งขันเพื่อค้นหาแอร์โฮสเตสครั้งแรกในโลก ลิขสิทธิ์ของคนไทย โดยออกอากาศให้ชมพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 5 กรกฎาคม 2557 เวลา 17.30 น. ทางช่อง 3 ซึ่งผู้ที่ได้รับตำแหน่ง The Angel นางฟ้าติดปีก จะได้รับรางวัลเงินสด 1 ล้านบาท พร้อมตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ของสายการบินนกแอร์ ซึ่งการผลิตรายการในครั้งนี้ เราใช้งบลงทุนสูงถึง 70 ล้านบาท เนรมิตท่าอากาศยานจำลองมาไว้ในสตูดิโอ ซึ่งได้ผลตอบรับจากบรรดาสปอนเซอร์เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นรถยนต์มิตซูบิชิ แอททราจ, แบรนด์ อินเนอร์ไชน์ สูตรเฉพาะสกัดจากสาหร่ายสแกนดิเนเวีย ,ศูนย์การค้าเมกาบางนา , เอไอเอส สาม จี สองพัน หนึ่งร้อย ,ไอ โมบาย ดีทีวี ซีรีส์ ,Tesco Lotus ,เกลด สปอร์ต น้ำหอมปรับอากาศรถยนต์และ กรุงเทพประกันชีวิต
นอกจากนี้ยังมองไปถึงตัวรายการที่ถือว่ามีความใหม่ในวงการ รายการ The Angel นางฟ้าติดปีกจึงถูกยกระดับ และส่งออกขายในตลาดต่างประเทศ นำร่องไปแล้วคือ ประเทศเวียดนาม และอีกหลายประเทศที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา ซึ่งในส่วนของแผนธุรกิจในครึ่งปีหลัง เรายังคงมีการผลิตรายการใหม่ๆโดนๆอีก3 รายการใหญ่แบ่งเป็น เกมโชว์ 1 รายการรายการฟอร์แมต1 รายการและรายการ The Angel นางฟ้าติดปีก ปี2
สำหรับบริษัท แฟล็กชิป เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ บริษัท เวิร์คพ้อยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ในอัตราส่วนผู้ถือหุ้น 50 :50 ก็ยังคงเดินหน้าผลิตรายการโทรทัศน์วาไรตี้เกมโชว์ ทอล์กโชว์ เรียลลิตี้และละคร ตามประสบการณ์และความถนัด โดยยังมีบริษัทในเครือกลุ่ม เดอะ คิด (The Kid)อีก5 บริษัท แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มOn Ground ได้แก่ บริษัท เช้นจ์คอร์ปอเรชั่นจำกัด,บริษัท ฟิวคอร์ปอเรชั่น จำกัด กลุ่มOnline ได้แก่ บริษัท ไฮเปอร์แอคทีฟออนไลน์ จำกัด และกลุ่มOn Air ได้แก่บริษัท แฟล็กชิป เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด และ บริษัท ลิมบิกมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เพื่อรองรับการผลิต โดยเรามองหัวใจหลักของการผลิตเป็น 3 ข้อ คือ ต้องเก่งมีความคิดสร้างสรรค์ (ครีเอทีฟ) ด้านการผลิตต้องเป็นมืออาชีพ และด้านการตลาดต้องรอบรู้เท่าทันเทคโนโลยีโดยในปีนี้เราวางงบการตลาดทั้งกลุ่มไว้ที่100ล้าน
อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมา บริษัทฯและบริษัทในเครือทั้งหมดสามารถทำรายได้รวมกว่า 250 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่ได้วางไว้ สำหรับปีนี้2557 ตั้งเป้ารายได้เอาไว้ที่500 ล้านบาท โดย 70 เปอร์เซ็นต์ หรือราว 350 ล้านบาท มาจากธุรกิจอีเวนท์ในเครือ เช้นจ์คอร์ปอเรชั่น ประมาณ300 ล้านบาท แฟล็กชิป เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ประมาณ120 ล้านบาทฟิวคอร์ปอเรชั่น100 ล้านบาทไฮเปอร์แอคทีฟออนไลน์20 ล้านบาท และบริษัทในเครืออีก 20 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกทั้งกลุ่มสามารถปิดมาได้แล้วที่300 ล้านบาท ซึ่งเรามั่นใจในศักยภาพของบริษัท และบริษัทร่วมทุนรวมถึงแนวโน้มของตลาดและปัจจัยบวกในการมาของทีวีดิจิตอลด้วย” คุณกฤษณ์กล่าวทิ้งท้าย