นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส ประเทศไทย และ เวียดนาม เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงช่วงปลายปีที่ผ่านมามีการชะลอตัวบ้าง เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมือง และภาพรวมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบเล็กน้อย จากปัจจัยดังกล่าวจึงเป็นแรงผลักดันให้ นู สกิน เดินเครื่องรุกตลาดแบบโปรแอคทีฟอย่างเต็มที่ตั้งแต่ต้นปี ประกอบกับสถานการณ์ต่างๆ มีแนวโน้มสดใสขึ้น ทำให้ นู สกิน ประเทศไทย สามารถกระตุ้นยอดขายครึ่งปีแรกของปี 2557 ให้เติบโตขึ้นแบบสวนกระแสถึง 25% อีกทั้งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังสามารถเพิ่มยอดผู้ทำธุรกิจได้สูงขึ้น 36% และยอดสมาชิกใหม่สูงขึ้น 72% เมื่อเทียบระหว่างเดือนมกราคม - พฤษภาคม ปี 2556 กับปี 2557
“สำหรับยอดขายครึ่งปีแรกนี้ ถือว่าเป็นการเติบโตที่เหนือความคาดหมาย ทั้งด้านยอดขาย ยอดผู้ทำธุรกิจ และยอดสมาชิก ที่เพิ่มขึ้นพร้อมๆกัน ทั้งนี้ปัจจัยความสำเร็จมาจากการปรับกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นเรื่องการส่งเสริมการเติบโตของผู้ทำธุรกิจเป็นหลัก โดยผ่านกิจกรรมการตลาดที่เราเรียกว่า “นู สกิน เอจล็อค เอ็กซ์โป” ซึ่งจำนวนผู้ทำธุรกิจเพิ่มขึ้นถึง 188% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2556 ที่เป็นเดือนแรกของนำกลยุทธ์เอ็กซ์โปมาใช้”
ด้านสัดส่วนยอดขาย ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเอจล็อคทั้งผลิตภัณฑ์สกิน แคร์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 67% จากเดิม 50% และผลิตภัณฑ์กลุ่มสกินแคร์และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 33% จากเดิม 50% เมื่อเทียบระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม ปี 2556 กับปี 2557 ซึ่งปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ยอดขายกลุ่มเอจล็อคเติบโต ส่วนหนึ่งมาจากการการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เอจล็อคอาร์สแควร์ในปีที่ผ่านมา รวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เอจล็อคได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้บริโภค เนื่องจากประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ให้ผลการใช้ที่ชัดเจน ผู้บริโภคจึงพึงพอใจในสินค้าอย่างมาก” นางภคพรรณ กล่าว
นางภคพรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับทิศทางการบุกตลาดครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เตรียมเดินหน้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้เทคโนโลยีเอจล็อค เพื่อตอกย้ำภาพผู้นำด้านผลิตภัณฑ์การต่อต้านความชรา โดยบริษัทฯ วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการดูแลรูปร่าง ชื่อว่า “เอจล็อค ทีอาร์ ไนนท์ตี้” (ageLOC TR90) เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ตลาดคนรักสุขภาพที่ต้องการดูแลรูปร่างอย่างถูกวิธี ซึ่งจะทำการพรีเซลล์ให้กับผู้ทำธุรกิจระดับบริหารช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าหลังจากมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เอจล็อคอย่างเป็นทางการช่วงไตรมาส4 ปีนี้ จะส่งผลผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20%”
ขณะเดียวกันกิจกรรมด้านการส่งเสริมการทำธุรกิจของผู้แทนจำหน่าย บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นที่การจัดอินเซ็นทีฟทริปแบบเอ็กซ์คูซีฟเพื่อให้แตกต่างและดึงดูดใจผู้ทำธุรกิจต่อเนื่องต่อไป ซึ่งมีเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้งสลับหมุนเวียนตามตำแหน่งต่างๆของผู้ทำธุรกิจ
“ปัจจุบัน นู สกิน ประเทศไทยสามารถสร้างผู้แทนจำหน่ายเข้าสู่ทำเนียบเศรษฐีเงินล้านได้กว่า 680 บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่จะก้าวเป็นบริษัทขายตรงแนวหน้าของโลกด้วยการสร้างรายได้ให้แก่ผู้แทนจำหน่ายที่มากกว่าบริษัทขายตรงอื่นๆ โดยในครึ่งปีแรกนี้ จำนวนผู้แทนจำหน่ายที่มียอดคอมมิสชั่นสะสม 1 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 12%” นางภคพรรณกล่าวสรุป