ภาคประชาสังคม จี้ คสช.ตรวจสอบ บอร์ดองค์การเภสัช แม้ลาออกก็ปัดความรับผิดชอบไม่ได้ จี้สำนึกปลัดสธ.อย่าลอยตัว

พุธ ๑๖ กรกฎาคม ๒๐๑๔ ๑๑:๒๗
สืบเนื่องจากการเคลื่อนไหวของภาคประชาสังคมด้านสุขภาพเปิดเผยพฤติการณ์ เป็นผลให้บอร์ดองค์การเภสัชกรรมลาออก 10 คนมีผลวันที่ 10 กรกฎาคม 2557 โดย 2 คน ที่เหลือซึ่งไม่ได้ลาออกเนื่องจากเป็นบอร์ด อภ. โดยตำแหน่ง ได้แก่ นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผอ.อภ. และนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)

นางสาวสุภัทรา นาคะผิว โฆษกกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่าประเด็นข้อกังขาของการบริหารงานของ ผอ.อภ.คนปัจจุบันและบอร์ดชุดนี้มีมาตลอดอย่างต่อเนื่อง ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา อภ.ไม่สามารถดำเนินการตามพันธกิจขององค์การเภสัชกรรมได้ ข้ออ้างที่ว่าโรงงานมีปัญหาคุณภาพต้องปรับปรุงจนทำให้ยาสำคัญหลายตัวขาดแคลนไปทั่วประเทศเป็นข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น พันธกิจขององค์การเภสัชกรรมคือต้องผลิตและจัดหายาที่มีคุณภาพให้ประชาชน แต่กลับปล่อยให้ยาสำคัญหลายชนิดขาดสต็อก ทั้งยาเบาหวาน ความดัน ยาจิตเวช เอชไอวีและอื่นๆ แล้วผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่จำเป็นต้องใช้ยาทุกวันจะทำอย่างไร

โฆษกกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่าแม้บอร์ดองค์การเภสัช 10 คนลาออก แต่ก็ไม่ใช่การปัดความรับผิดชอบต่อความบกพร่องในการบริหารงานได้ คสช.ควรดำเนินการเพื่อการสร้างธรรมาภิบาลและความโปร่งใส โดยการ (1) ตั้งกรรมการสอบประเด็นต่างๆที่มีการร้องเรียน (2) ให้ นพ.สุวัช ผู้อำนวยการ อภ.พิจารณาตัวเอง เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงหลายประเด็น จะไม่แสดงความรับผิดชอบได้อย่างไร (3) นพ.ณรงค์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขต้องแสดงความรับผิดชอบด้วย เพราะเป็นกรรมการ รับรู้ปัญหามาโดยตลอด โดยไม่ดำเนินการอย่างใด และ (4) คืนความเป็นธรรมให้ นพ.วิฑิต อรรถเวชกุล อดีต ผอ.ที่ถูกให้ออกและเจ้าหน้าที่ที่ถูกใส่ความอย่างไม่เป็นธรรม

นพ.วชิระ บถพิบูลย์ ชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่าย้ำว่า เป็นหน้าที่อภ.ต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้ยาขาดแคลน จี้ให้บอร์ดตอบคำถาม ทำไมปล่อยรพ.แก้ปัญหายาเบาหวานและความดันขาดแคลนเองแถมไม่ยอมแจ้งล่วงหน้า ยาจิตเวชต้องรอนานแค่ไหน ถึงจะมีใช้พอ เหตุใดหยุดผลิตยาเม็ดหญิงตั้งครรภ์ ส่อเจตนาให้ไปซื้อจากบริษัทเอกชนอื่นหรือไม่ ขาดส่งยาต้านไวรัสเอดส์ให้สปสช. 3 เดือน กระทบผู้ติดเชื้อทั่วประเทศจะทำอย่างไร โรงงานผลิตวัคซีนที่รังสิตล่าช้ากว่าปี ทำไมไม่ขึ้นบัญชีทิ้งงาน แถมยังจะจ้างกลับเข้ามาใหม่อีก

ทางด้าน ภญ.ศิริพร จิตรประสิทธิศิริ ตัวแทนชมรมเภสัชชนบทกล่าวว่า ปัญหาการตัดจ่ายยาของ อภ.รุนแรงอย่างมากตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จากการสำรวจ โรงพยาบาลชุมชน 7 แห่ง 3 จังหวัด มีแจ้งยกเลิกจำหน่ายยาหลายใบสั่งซื้อ 80 กว่ารายการ หากสำรวจทั่วประเทศมั่นใจว่าจะพบปัญหามากกว่านี้

“ขอยกตัวอย่าง ยาไตเฟอดีน ซึ่งเป็นนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขให้หญิงตั้งครรภ์ได้รับไอโอดีนและวิตามิน ก่อนหน้านี้ อภ.ขายให้ เม็ดละ 83 สตางค์ แต่แจ้งขาดสต๊อก 1 เดือนมาหลายครั้งจนแจ้งยกเลิกการผลิตในที่สุด ทั้งที่ในตลาดมีผู้ผลิตอีกรายเดียว ในราคาที่แพงกว่ามากคือ เม็ดละ 1.78 บาท ทำให้โรงพยาบาลต้องสูญเสียงบประมาณมากขึ้นในการดูแลประชาชน ทั้งที่นี่เป็นนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเอง ปลัด สธ.อยู่ในบอร์ด เหตุใดจึงไม่เร่งรัดแก้ปัญหานี้ แต่ปล่อยให้ อภ.แจ้งยกเลิกการขายและการผลิต

ตัวแทนชมรมเภสัชชนบท ฝากถึงคสช.และซุปเปอร์บอร์ดต้องเร่งแก้ปัญหาเหล่านี้ เพื่อให้องค์การเภสัชกรรมมีประสิทธิภาพ เป็นที่พึ่งด้านยาและสุขภาพของประเทศ และต้องประกาศว่าต่อแต่นี้จะสนับสนุนให้ องค์การเภสัชกรรมเป็นรัฐวิสาหกิจที่ไม่แสวงหากำไร ตัวชี้วัดจะไม่ใช่กำไรแต่ต้องเป็นการทำหน้าที่อันเป็นพันธกิจเพื่อสังคม เป็นกำลังสำคัญสร้างความมั่นคงในระบบยาของประเทศ มุ่งมั่นพัฒนายาใหม่ทำให้ประชาชนเข้าถึงยาคุณภาพในราคาที่เป็นธรรม

นอกจากนี้ ปัญหาที่กระทรวงสาธารณสุขมีหนังสือลงวันที่ 4 ก.ค. 2557 ลงนามโดย นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดสธ. สั่ง สสจ.และ ผอ.รพ.ทุกแห่งงดทำข้อตกลงและทบทวนการเข้าร่วมกิจกรรมทุกประเภทกับ สปสช. ในพื้นที่ จนกว่าจะมีข้อตกลงการบริหารงบประมาณที่ชัดเจนระหว่าง สธ. กับ สปสช. ส่วนกลางนั้น

โฆษกกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ระบุว่า เป็นการกระทำที่เลวร้ายของผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงที่มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุข ด้านสุขภาพของประชาชน แต่กลับมีพฤติการณ์ที่จงใจฆ่าประชาชนเสียเองถือเป็นการจับคนทั้งประเทศเป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองอำนาจในการจัดการงบประมาณ

“ในระดับพื้นที่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ รพ.ต่างๆ สับสนกับหนังสือสั่งการให้หยุดร่วมกิจกรรม หยุดส่งข้อมูลบริการให้ สปสช. ทำให้ รพ. ขาดงบประมาณที่จะได้รับหรืองบประมาณส่งถึง รพ.ล่าช้า และอีกไม่ช้าจะกระทบต่อการให้บริการผู้ป่วย หรืออย่างประเด็นที่กระทบแล้วขณะนี้ได้แก่ผู้ป่วยที่ได้รับความเสียหายจากการใช้บริการและกำลังรอการพิจารณาของอนุกรรมการมาตรา 41 ซึ่งมี นพ.สสจ.เป็นเลขานุการ บางแห่งต้องหยุดชะงักไปด้วย ภาคประชาชนเรียกร้องให้ คสช.ต้องแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุขต้องรับผิดชอบโดยตรงกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชน” สุภัทราทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO